หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ขายข่าวขายความจริงให้ประชาชนคนไทยได้อ่านมาอย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุดในประเทศไทยฉบับนี้ ประจำวันพุธที่ 18 ก.ย.2567 นิมิตรใหม่การเมืองไทย ไม่เอาม็อบ ...*...
ท่วมช้ำท่วมซาก เป็นวิบากกรรมของ ธรรมชาติ บวกกับ พฤติกรรมของมนุษย์ ที่ ทำร้ายธรรมชาติ เป็นเหตุให้ สภาพอากาศของโลกขาดภาวะสมดุล อันเกิดจาก ภาวะโลกร้อน จนเกิด เอลนีโญ และ ลานีญา ที่ ทำให้สภาพอากาศโลกเปลี่ยนแปลง หลายประเทศจะต้องเตรียมรับมือ อากาศหนาวจัด ร้อนจัด และ น้ำฝนจะหล่นจากฟ้าปริมาณมากกว่าปกติหลายเท่า ดังเช่น ที่เข้าบ้านเราตอนบน เริ่มต้นที่ เชียงราย พะเยา ไหลบ่าผ่านแม่น้ำโขง เข้าท่วมบึงกาฬ หนองคาย สร้างความเสียหาย ทั้งชีวิต และ ทรัพย์สิน เป็นอุทกภัย ท่วมแล้ว ท่วมอยู่ และ จะท่วมอีกต่อไป ...*...
ตบเท้าเข้าไทยคู่ฟ้าอย่างเป็นทางการ “มาดามอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ประเดิมภารกิจนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และ ดินโคลนถล่ม “คอส.” ครั้งที่ 1 / 2567 มีมติแต่งตั้ง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีกลาโหม เป็น ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และ ดินโคลนถล่ม (ศปช.) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อนุมัติงบกลาง เยียวยาผู้ประสบภัย 3,000 ล้านบาท นำเข้า ครม.อนุมัติทันที ในการประชุม ครม.อิ๊งค์ 1 ครั้งแรก เมื่อวันวาน ...*...
งานนี้ บารอน ขอบอกอย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ ดูสภาพอากาศเมืองไทย ไล่ตั้งแต่ ภาคเหนือตอนบน ในพื้นที่เดิมๆ เชียงราย พะเยา และ เชียงใหม่ ไล่ไปถึง ภาคอีสานเหนือ ทุกจังหวัดตลอดแนวริมฝั่งโขง โยงไปถึงภาคใต้ ทุกจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน ยังวางใจไม่ได้ดอกครับ ยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ที่มีร่องมรสุมพาดผ่าน ช่วงปลายเดือนกันยาถึงตุลาคม ยังมีลมพายุอีกหลายลูกที่จะเข้าถล่มประเทศไทย งบกลางที่ คอส. อนุมัติให้ ศปช. 3,000 ล้านบาท สำหรับ เยียวยาผู้ประสบภัยไม่เพียงพอแน่นอน ...*...
ดูการเมืองไทย ประสา บารอน มองดูแล้ว เห็นความเปลี่ยนแปลง จาก สงครามม็อบ ที่ มีความพยายามจุดให้ติด แต่ ไม่สำเร็จ คงจะเป็นเพราะ ประชาชนเข็ดขยาด ม็อบไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ เป็นได้แค่ สารตั้งต้น ที่ จบลงด้วยการปฏิวัติ ไม่ต่างอะไรกับขนทรายเข้าวัด ปฏิวัติเสียของซ้ำซาก ...*...
การเมืองปัจจุบัน จึงหันมาเป็น นิติสงคราม ก้าวข้ามสงครามม็อบ ไม่ต้องลงถนน ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความรุนแรง และ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนสัญจรไม่สะดวก “บารอน” มองมุมบวก อย่างไรเสีย นิติสงคราม ยังดีกว่า สงครามม็อบ เป็นการต่อสู้ทางการเมืองตัวหนังสือบนกระดาษ ที่ สามารถทำได้ตามกรอบกติกา ที่ กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ...*...
ก็ไม่รู้ ดร.ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จะรำคาญไปใย กับ หลายๆคำร้อง ของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จะถือเป็นธุระไม่ใช่ ไม่ได้นะครับ จะไร้สาระหรือไม่ ต้องปล่อยให้ องค์กรอิสระที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง มีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ ทำหน้าที่ วินิจฉัยต่อไป หน้าที่ของ ท่านอาจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ต้องปฏิบัติ ต้องเฝ้าติดตามทุกคำร้องรัฐบาล ในฐานะ มือกฎหมายของรัฐบาล มีนักร้องท่านถึงมีงานทำนะครับ ...*...
แต่ที่ บารอน เห็นด้วยกับ ท่านรัฐมนตรีชูศักดิ์ ศิรินิล ว่า นายกฯอิ๊งค์ไม่ได้ ฝ่าฝืนจริยธรรม เพราะ ไปแต่งตั้ง นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เนื่องจาก นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ ไม่เคยต้องคำพิพากษาใดๆ ในการดำรงตำแหน่งนายก อบจ.กาญจนบุรี ก็ได้รับการรับรองจาก กกต. ไม่มีแม้แต่ใบเหลือง บรรทัดนี้ บารอน ขอแอบชม นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เจ้าของคำร้องเรียน ที่เขียนคำร้องได้เก่ง และ เนียนมาก ต้องอ่านคำร้องหลายรอบ ถึงได้คำตอบว่า มีผู้กระทำความผิดจริง และ รับสารภาพ โดน โทษจำโทษปรับ แต่ โทษจำรอลงอาญา 1 ปี แต่เป็นคนละคนกัน ...*...
ที่มา:บารอน (18/9/67)