วันที่ 18 ก.ย.67 เวลา 07.30 น.   ร.ต.อ.ณัฐพงษ์  ชมภู รองสว.(สอบสวน)สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้รับแจ้งพบผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย ภายในบ้านพัก หมู่2 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง จึงรายงานให้พ.ต.อ.ชัยพงษ์ แสงพงษ์ชัย ผกก.สภ.ปลวกแดง รับทราบและรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยชุดสืบสวน จนท.พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ปลวกแดง เจ้าหน้าที่กู้ภัยปลวกแดง 

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว หน้าบ้านเปิดเป็นร้านขายของชำ ตรวจสอบภายในบ้าน มีกลิ่นควันคละคลุ้งฟุ้งกระจายทั่วบ้าน จึงเข้าไปในห้องนอน พบกับภาพสุดสลด พ่อแม่และลูกสาว นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน สภาพศพผู้ชายนอนหงายไม่สวมเสื้อใส่กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ผู้หญิงนอนหงายน้ำลายฟูมปาก ส่วนอีกศพเป็นเด็กผู้หญิงนอนคว่ำหน้า เสียชีวิตอยู่บนที่นอน

โดยพบเตาอั๊งโล่ที่ถูกเผาจนเหลือแต่ขี้เถ้าอยู่ในเตา และ ยังพบเถ้าถ่านที่ถูกเผาอยู่ภายในกะละมังสแตนเลสที่วางอยู่กับพื้นห้อง นอกจากนี้ยังมีการใช้เทปกาวปิดช่องประตูหน้าต่าง และ พัดลมดูดอากาศจนมิดชิด  พบจดหมายเขียนไว้ มีใจความว่า“ ถึงอา มีเงินประกันสังคมเสียชีวิต 50,000 บาท เอ๋มีประกัน เสียชีวิต 100,000 บาท เนยก็มีผู้พิการ เอาตรงนี้ใช้หนี้ รถยกให้ติ่ง” จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และ ไม่พบบาดแผลการถูกทำร้าย คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า3ชั่วโมง ต่อมาจึงนำศพชันสูตรที่ โรงพยาบาลระยอง

จากการสอบถาม นางทองคูณ อายุ 46 ปี  ให้การว่า ผู้เสียชีวิตเป็นน้องสาว น้องเขย และ หลานสาว ประกอบด้วยนายสายัณห์  อายุ 50 ปี ทำงานขับรถ นางกนกอร  อายุ 43 ปี ค้าขายอยู่ในบ้านเกิดเหตุ ตนเองมาพบศพช่วงเช้า เพราะตนเองจะมาช่วยน้องสาวทำกับข้าวขาย พอมาถึงเห็นบ้านปิดเงียบ เรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ จึงเรียกเจ้าของบ้านมางัดประตู เข้าไปเหม็นกลิ่นควันทั้งบ้าน เข้าไปในห้องนอนก็ถึงกับช็อกกับภาพที่เห็น เสียใจมากสงสารทั้งสามคนมากไม่น่าทำอย่างนี้เลย

โดย นางทองคูณ ได้ให้การต่อว่า สำหรับน้องสาวและน้องเขย ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทั้งสองคน ต้องรับยาเป็นประจำ ส่วนหลานสาวป่วยเป็นออทิสติก สาเหตุคงเกิดจากปัญหาโรคซึมเศร้า ที่เกิดจากความเครียดเกี่ยวกับธุรกิจที่เคยทำล้มเหลวจนต้องย้ายมาอยู่ที่ระยอง ซึ่งที่ผ่านมาทั้งคู่เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วครั้งหนึ่งขณะที่อาศัยอยู่ที่ กทม. แต่ช่วยทันจึงรอดมาได้ โดยไม่คิดว่าจะก่อเหตุอีก เสียใจมากกับการสูญเสียที่เดียวถึงสามคน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า มีการเตรียมการมาอย่างดีเพื่อก่อเหตุรมควันเสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่ามีการปิดช่องอากาศทุกช่อง ส่วนสาเหตุของก่อเหตุต้องสอบสวนญาติเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนศพจะให้ญาติมาติดต่อรับศพเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลศพตามประเพณีต่อไป