“พริษฐ์” ลั่นจุดยืน ปชน.ไม่มีเจตนาเปลี่ยนแปลงการปกครอง รับประเทศมีปัญหาต้องรื้อครั้งใหญ่ วอนฝ่ายปฏิรูปอย่าใช้ยุทธศาสตร์ขวางการเปลี่ยนแปลงประเทศ ตีตราเป็นพวกสุดโต่ง
วันที่ 18 ก.ย.2567 เวลา 09.30 น.ที่รัฐสภา นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคประชาชน (ปชน.) แพ้การเลือกตั้งซ่อมสส.พิษณุโลก เขต 1 เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ให้กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งหลายคนมองเพราะการปราศรัยของส.ส.คนหนึ่งระบุว่าจะให้นำค่ายทหารในจังหวัดมาเป็นที่ทิ้งขยะ จนทำให้ฐานเสียงเกิดความไม่สบายใจว่า เหตุผลเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งจะสรุปว่าเป็นประเด็นใดประเด็นหนึ่งได้ เชื่อว่าประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิ์แต่ละคนก็อาจจะมีปัจจัยที่แตกต่างกันไป ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการบริหารจัดการขยะในจังหวัดพิษณุโลกเราได้รับทราบข้อมูลมา และนายณฐชนน ชนะบูรณาศักดิ์ ผู้สมัครสส.พรรคประชาชน ก็ได้ชี้แจงไปแล้วข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่านายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวพาดพิงพรรคปชน.เป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิวัติ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันเป็นพรรคที่มีแนวความคิดปฏิรูป โฆษกพรรคประชาชน กล่าวว่า มีการตีตราว่าเรียกเราพรรคปฏิวัติ และเรียกพรรครัฐบาลว่าเป็นสายปฏิรูป ส่วนตัวมองว่าคำว่าปฏิวัติขึ้นอยู่กับคนที่จะตีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครอง พรรคประชาชนก็ยืนยันว่าเราไม่เจตนา และจุดยืนเช่นนั้น แต่ว่าถ้าปฏิวัติจะหมายถึงการยอมรับว่าบางปัญหาในประเทศอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เรื่องการศึกษาที่จะต้องมีการจัดทำหลักสูตรใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิรูประบบราชการ ที่ต้องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เราไม่ปฏิเสธ
มองว่าหลายเรื่องต้องมีการปฏิรูปครั้งใหญ่ เราไม่ได้มองว่าเจตนาของผู้พูดเป็นอย่างไร แต่เราต้องการจะชี้แจงจุดยืนพรรคประชาชนเป็นอย่างไร เราไม่มีเจตนาจะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง แต่เราก็เห็นถึงความจำเป็นที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน และการแก้ปัญหาหลายอย่างครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ส่วนการนิยามว่าพรรครัฐบาลเป็นพรรคปฏิรูปตั้งคำถามกลับไปว่า 1 ปีที่ผ่านมายังไม่เห็นการปฏิรูปโครงสร้างประเทศด้านไหนเลย ยกตัวอย่างเช่น 1.การปฏิรูประบบราชการ ในการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น 2.การศึกษา พบว่าการประเมินเด็กไทยลดลงเรื่อยๆ 3.การปฏิรูปกองทัพ
“ฝ่ายที่ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง หรือกังวลใจที่จะเปลี่ยนแปลง มักจะพยายามใช้วิธีการไปตีตราพวกที่ต้องการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นพวกสุดโต่ง เป็นสิ่งที่พวกเราเผชิญมาตั้งแต่ปี 2566 พรรคก้าวไกลได้รับความไว้วางใจมาเป็นอันดับหนึ่ง ผมไม่อยากเห็นการใช้ยุทธศาสตร์แบบนี้มากีดขวางการเปลี่ยนแปลง” นายพริษฐ์ กล่าว