วันที่ 18 ก.ย.67 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) พร้อมด้วยนายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด และพ.ต.อ. รัฐโชติ โชติคุณ รองผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุม MR.BENNY KEE SOON CHUAN นักค้ายาเสพติดข้ามชาติชาวสิงคโปร์ ณ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงาน ป.ป.ส.
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับการประสานข้อมูลจาก สำนักยาเสพติดกลาง ประเทศสิงคโปร์ (CENTRAL NARCOTICS BUREAU : CNB) แจ้งว่า MR.BENNY KEE SOON CHUAN นักค้ายาเสพติดข้ามชาติรายสำคัญที่ทางการสิงคโปร์ต้องการตัว ได้หลบหนีหมายจับศาลแห่งรัฐสิงคโปร์ มาพำนักอยู่ในประเทศไทย ซึ่งผู้ต้องหามีบทบาทเป็นผู้สั่งการเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด โดยใช้ไทยเป็นทางผ่านในการลักลอบส่งยาเสพติดผ่านพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นยาเสพติดประเภท ไอซ์ คีตามีน เอ็กซ์ตาซี จัดส่งปลายทางประเทศสิงคโปร์ และ ประเทศออสเตรเลีย
ตนจึงได้สั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด ติดตามจนพบว่าบุคคลดังกล่าว ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านพักย่าน ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ มีพฤติการณ์ไม่ได้ประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่งในประเทศไทย และมีความเป็นอยู่ที่ร่ำรวยผิดปกติ จึงได้ประสานความร่วมมือไปยังงาน กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อแจ้งว่า MR.BENNY KEE SOON CHUAN เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ให้อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด อันส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศชาติ เพื่อขอให้พิจารณายกเลิกการตรวจลงตรา (วีซ่า) รวมทั้งประสาน CNB โดยทาง CNB ได้ส่งเจ้าหน้าที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อร่วมสืบสวนติดตามจับกุมด้วย
สำหรับผู้ต้องหารายนี้ ป.ป.ส. ได้รับแจ้งจาก CNB เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา จึงได้รีบเร่งติดตามจับกุมตัวทันที จนสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ได้ที่บ้านพักย่านสมุทรปราการ จากนี้ทาง ป.ป.ส. จะดำเนินการเพื่อผลักดันกลับประเทศสิงคโปร์ ให้ทางการสิงคโปร์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ตามกฎหมายของสิงคโปร์ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดจะได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต เพราะสิงคโปร์ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีกฎหมายต่อต้านยาเสพติดที่เข้มงวดที่สุดในโลก
จากการสืบสวนต่อเนื่องยังพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีความเชื่อมโยงกับคดีอื่น อีก 2 คดี คือ คดี 1. เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2564 ชุดปฏิบัติการ AITF ตรวจยึดพัสดุซุกซ่อน ไอซ์, เอ็กซ์ตาซี, คีตามีน เตรียมจัดส่งปลายทางสิงคโปร์ ผู้ส่งพัสดุเป็นชาวสิงคโปร์ ชื่อ MR.TEO ZHI JIE ต่อมาเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2564 เจ้าหน้าที่ขยายผล จับกุม MR.TEO ZHI JIE และจากการตรวจสอบพบว่ามีความเชื่อมโยงกับ MR.BENNY KEE SOON CHUAN กับพวกรวม 3 คน เชื่อว่าเป็นผู้ร่วมขบวนการค้ายาเสพติดร่วมกัน และ คดีที่ 2 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ชุดปฏิบัติการ AITF ตรวจยึดพัสดุซุกซ่อน ไอซ์ เตรียมจัดส่งปลายทางประเทศออสเตรเลีย สืบสวนขยายผลทราบว่า ผู้ส่งพัสดุเป็นชาวสิงคโปร์ ชื่อ MR.WEE PING ADRIAN PEH ต่อมาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2565 เจ้าหน้าที่ขยายผลจับกุม MR.WEE PING ADRIAN PEH (บุคคลในเครือข่าย MR.BENNY KEE SOON CHUAN) ขณะเดินทางไปติดต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง จ.สมุทรปราการ
ตนเน้นย้ำว่า ป.ป.ส. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำการติดตามสอบสวนเครือข่ายยาเสพติดข้ามชาติอย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้ ตนยังได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด เข้าร่วมประชุมหารือกับทาง CNB (เมื่อวันที่ 19 มี.ค.67) เรื่องเครือข่ายนักค้ายาเสพติดชาวสิงคโปร์ที่หลบหนีมาพำนักในประเทศไทยด้วย
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวทิ้งท้ายว่า ปัจจุบันปัญหาการค้ายาเสพติดในลักษณะเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติกระจายตัวอยู่ทั่วทุกภูมิภาค โดยพยายามใช้ไทยเป็นทางผ่านไปยังประเทศที่สาม ทั้งการซุกซ่อนในพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศ การขนส่งทางอากาศ การขนส่งทางเรือ เป็นต้น ซึ่ง ป.ป.ส. ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีเสมอมาจากหน่วยงานภาคี CNB สิงคโปร์ และจาก ตม. และยังได้ประสานความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานระหว่างประเทศ อาทิเช่น สิงคโปร์ เวียดนาม จีน เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฯลฯ เพื่อติดตามแลกเปลี่ยนสืบสวนขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม