หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 74 เป็นเครื่องพิสูจน์ ...*...
“พันแสง” ขอให้กำลังใจ “พี่น้องชาวไทย” ที่ประสบอุทกภัยในยามนี้ ขอให้ผ่านพ้นสถานการณ์อันยากลำบาก รวบรวมกำลังกาย และกำลังใจอันแข็งแกร่งก้าวข้าม “วิกฤตใหญ่” ครั้งนี้ไปให้ได้ “ทุกข์ยาก” ของพี่น้องชาวเชียงราย เชียงใหม่ และอีกหลายๆจังหวัด คือทุกข์ของคนไทยด้วยกัน จะเห็นได้จาก “น้ำใจ” ที่หลั่งไหลไปจากทุกทิศทุกทาง จาก “ชาวใต้” ภาคกลาง และกทม. ไปถึงชาวเชียงราย ระดมทุกความช่วยเหลือทั้งทรัพย์สิน ข้าวของเครื่องใช้ ผ่านหน่วยงานรัฐ องค์กร และมูลนิธิ ตลอดจน “ภาคเอกชน” ส่งไปถึงพี่น้องผู้ประสบภัย ที่เหนือ ...*...
ยังไม่นับรวม “เจ้าหน้าที่” จากทุกๆฝ่ายจาก กู้ภัย จากปภ. เอกชน บุคคลต่างๆที่นำเครื่องไม้เครื่องมือ และกำลังกาย เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นับตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ ขณะที่ ทุกเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจ ได้ส่งหน่วยต่างๆ ฝ่ากระแสน้ำเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนตามบ้านเรือน ปรากฏเป็นภาพ เป็นข่าวตลอดห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ...*...
ขณะที่ “สมาชิกวุฒิสภา” ยังได้ระดมความช่วยเหลือร่วมบริจาคเงินสมทบสนับสนุน จะเหลือก็แต่ “สส.” สภาผู้แทนราษฎร หากมีใครประกาศ เสนอหักเงินเดือนสส. มาร่วมสมทบน่าจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย เมื่อผู้แทนฯ มาจาก “ประชาชน” แล้วในเวลานี้ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะสละเงินเดือนบางส่วน ลดจากค่าอาหาร ของสส. บ้างก็ดี แล้วนำเงินมาร่วมบริจาค อย่าอ้างว่า “มีงบประมาณ” อยู่แล้ว เพราะการแสดงน้ำใจถือเป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่าอ้างประชาชน อย่านึกถึงประชาชน แค่ฤดูหาเสียงเท่านั้น ...*...
เสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานต่อ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกฯคนที่ 31 คือ “บททดสอบ” ว่าเธอเหมาะสมที่จะทำหน้าที่ “ผู้นำรัฐบาล” หรือไม่โดยจากนี้ “เวลา” และ “การกระทำ” เท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าสิ่งที่แถลงนโยบายเอาไว้ต่อรัฐสภาที่ผ่านมาเป็นแค่ “สคริปต์” หรือ “โรดแม็ป” ที่ “นายกฯอิ๊งค์” จะต้องเดินไปให้ถึงได้จริง สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่เชียงใหม่และเชียงรายตั้งแต่วันแรก ถือเป็นเหตุ “จำเป็นเร่งด่วน” ตามมาตรา 162 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ ที่ “เปิดช่อง” ให้ “นายกฯอิ๊งค์” สามารถ “สั่งการ” ได้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องอ้างว่ารอแถลงนโยบายรัฐบาลเสร็จสิ้นก่อน เพราะในมาตราดังกล่าว ระบุเอาไว้ว่า “ก่อนแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หากมีกรณีที่สำคัญและจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งหากปล่อยให้เนิ่นช้าไปจะกระทบต่อประโยชน์สำคัญของแผ่นดิน คณะรัฐมนตรีที่เข้ารับหน้าที่จะดำเนินการไปพลางก่อนเพียงเท่าที่จำเป็นก็ได้” ...*...
“นายกฯอิ๊งค์” ต้องแสดงให้เห็นว่าตัวเองมีความพร้อมมากพอ มีความเหมาะสมมากพอที่จะเข้ามา “แบกรับทุกข์ของประชาชน” ได้จริง ไม่ว่าการเข้ามาเป็น “นายกฯคนที่ 31” ครั้งนี้ จะด้วย “พ่อผลัก” เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวก็ตามที นายกฯต้องมีแพสชั่น ในการลุยกับปัญหามากกว่านี้หรือไม่ หรืองานนี้จะต้องโทษ “กุนซือ” รอบตัวกันดี ที่ยัง “เทรนด์” ยัง “ติว” กันมาไม่มากพอ ? ...*...
การเมืองในห้วงสัปดาห์นี้ ต้องจับตา “ปฏิบัติการเอาคืน” จาก “บ้านป่าฯ” จะมี “ไม้เด็ด” หรือไม่ หลังจากที่ ปล่อยให้ “ฝ่ายตรงข้าม” เดินหน้ายิงหมัดไล่ถลุง จนหลังแทบจะติดเชือกอยู่แล้ว หรือนี่คือการเข้าสู่โหมด “ปิดสวิตช์ 3 ป.” ของจริงเสียแล้ว แต่อย่าลืมว่า มวยยังมีหลายยก อย่าเพิ่งรีบนับคะแนนชิงปิดเกมไปเสียก่อน ระดับ “พี่ใหญ่บูรพาพยัคฆ์” จะปิดฉาก ง่ายดาย เช่นนั้นหรือ ? อย่าลืมว่า “หัวใจ” ของครม.ชุดนี้ไม่ได้อยู่ที่ “ตึกไทยคู่ฟ้า” แต่อยู่ที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ต่างหาก ! ...*...
ที่มา:พันแสง (16/09/67)