จังหวัดอ่างทอง เสริมแกร่งกองทุนชุมชนเป็นแหล่งทุนธรรมาภิบาล “อ่างทอง ทุน D”

วันที่ 16 กันยายน 2567 เวลา 13.00 น.นายชลอ พงษ์ชุบ พัฒนาการจังหวัดอ่างทอง พบปะผู้เข้าร่วมโครงการอ่างทองเสริมสร้างกองทุนชุมชนเป็นแหล่งทุนธรรมาภิบาล กิจกรรม เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้การขับเคลื่อนงานกองทุนชุมชน โดยมี นางธีราพร สุริสีหเสถียร อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดอ่างทอง และคณะนางสาวผกากรอง สุทธิสารนันท์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศการพัฒนาชุมชน พัฒนาการอำเภอทุกอำเภอ  นักวิชาการ พัฒนากร อาสาพัฒนาชุมชน ณ ห้องประชุมป่าโมก ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง


    ด้วยจังหวัดอ่างทอง ได้จัดทำโครงการริเริ่มสร้างสรรค์เพื่อพัฒนางานและบริหารจัดการกองทุนชุมชนให้เกิดธรรมาภิบาลภายใต้โครงการอ่างทองเสริมสร้างกองทุนชุมชนเป็นแหล่งทุนธรรมาภิบาลซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจการขับเคลื่อนงานกองทุนชุมชนให้กลุ่มเป้าหมายสามารถนำแนวทางไปสู่การปฏิบัติ และพัฒนากองทุนชุมชนให้เกิดธรรมาภิบาล เพื่อส่งเสริมกองทุนชุมชนมีการบริหารจัดการที่ดีมีประสิทธิภาพเกิดธรรมาภิบาล จากการดำเนินโครงการฯ มีกิจกรรมประกอบด้วย 1.จัดประชุมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการขับเคลื่อนงานทุนชุมชน และบันทึกลงนามความร่วมมือ MOU 2.สร้าง Platform การบันทึกและติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนงานกองทุนชุมชน 3.เวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การขับเคลื่อนงานทุนชุมชนในระดับพื้นที่


         สำหรับวันนี้เป็นการจัดเวทีแลกปเลี่ยนเรียนรู้การขับเคลื่อนงานกองทุนชุมชนให้เป็นไปตามระเบียบฯ และแนวทางที่กรมการพัฒนาชุมชนกำหนด พร้อมหาแนวทางการป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการบริหารจัดการกองทุนชุมชน เพื่อให้การบริหารจัดการกองทุนชุมชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีธรรมาภิบาล และสรุปผลการขับเคลื่อนงานกองทุนชุมชนในรอบปีงบประมาณ 2567 ซึ่งจังหวัดอ่างทองมีเป้าหมายการดำเนินงานโครงการอ่างทองเสริมสร้างกองทุนชุมชนเป็นแหล่งทุนธรรมาภิบาล (อ่างทองทุน D) คือ หมู่บ้านโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน(กข.คจ.) จำนวน 102 หมู่บ้าน และกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต จำนวน  12 กลุ่ม 


       ทั้งนี้ ได้รับความอนุเคราะห์และสนับสนุนจากสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดอ่างทอง ร่วมเวทีแลกเปลี่ยนและให้คำแนะนำข้อกฎหมาย แนวทางการปฏิบัติ เพื่อให้การบริหารเงินทุนโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน (กข.คจ.) เป็นไปตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วย การบริหารและการใช้จ่ายเงินโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน พ.ศ.2553 เกิดธรรมาภิบาล สามารถบริหารจัดการเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป