'นพรุจ' ยื่นกกต. ตรวจสอบเอาผิด 'อุ๊งอิ๊ง' และพรรคเพื่อไทย กรณีร่วมงานบวช ลูกชายนายกเบี้ยว


เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 16 ก.ย.67  ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำพิราบขาว2006 ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ กกต. เพื่อให้พิจารณาว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายความผิดเช่นเดียวกับนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ ตามที่มีหนังสือกกต.แจ้งว่าเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ. เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหาร ท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 (3) (4)และมาตรา 66 ประกอบกับระเบียบคณะกรรมการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีหาเสียง และลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2563 ข้อ16 หรือไม่และ เป็นเหตุให้ กกต. พิจารณายุบพรรคเพื่อไทยตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ม.21 ม.92(4)  ความปรากฏต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ม. 93 และตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 มาตรา 132 วรรคสาม ด้วยหรือไม่


นายนพรุจ กล่าวว่า วันนี้มายื่นหนังสือถึง คณะกรรมการ กกต. ในกรณีที่กกต. มีหนังสือ ไปถึงกกต. จังหวัดปทุมธานี ให้ดำเนินคดีกับผู้จัดงานฉลองบวช เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ลานเทศบาลตำบลธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี โดยให้ดำเนินคดีอาญาการฝ่าฝืนผิด พ.ร.บ. เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหาร ท้องถิ่น พ.ศ. 2562 (3) คือการ โฆษณา โดยการจัดมหรสพในที่นี้มีวงดนตรีมีการกินเลี้ยงซึ่งมีนักร้อง ลำใย ไหทองคำ ซึ่งเป็นนักร้องที่สามารถดึงดูผู้ชมมาได้มาทำการแสดง และประธานจัดงานก็คือ อดีตนายกรัฐมาตรี นายทักษิณ ชินวัตร พร้อมหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในตอนนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ปรากฎอยู่ในงานเลี้ยงตลอดงาน ซึ่งงานนี้มีการประสานงานและจัดงานโดยนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ “นายก..เบี้ยว” นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ซึ่งเป็นพ่อของคนที่บาช 1 ใน 2 เป็น สส.เขต 5 ปทุมธานี ซึ่งปรากฎภาพตามป้ายพร้อมกับรูปหัวหน้าพรรคอย่างชัดเขน และเมื่อ กกต.มีมติให้ดำเนินการเอาผิดกับนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ “นายก..เบี้ยว” นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ดังนั้นบุคคลที่ปรากฎอยู่ในงานก็ต้องเข้าข่ายความผิดทุกคน

วันนี้จึงต้องมาบอก กกต.ว่าน.ส.แพรทองธาร ชินวัตร รวมถึงบุคคลต่างๆซึ่งอาจจะมายื่นเพิ่ม ในงานทุกคนไม่ว่าจะเป็น สส. หรือบุคคลอื่นที่มีตำแหน่งในทางการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นความผิดทางจริยธรรมร้ายแรงเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายรัฐธรรมนูญในการจัดเลี้ยง จัดมหรสพ หากปล่อยไปก็อาจจะเป็นตัวอย่าง


ในสำนวนนี้ถือว่าเข้าข่ายความ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ม.21 ม.92(4) ทำให้เป็นเหตุควรให้ไปสู้การยุบพรรค ประกอบกับ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง พ.ศ. 2561 มาตรา 132 วรรคสาม หัวหน้าพรรคต้องมีการยับยั้งห้ามปรามไม่ให้กระทำการในทำนองที่ไม่สุจริต ที่จะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริตไม่เที่ยงธรรม ฉนั้นวันนี้จึงมาขอให้ทาง กกต.พิจารณาว่า น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทย เข้าข่ายความผิดเช่นเดียวกันกับนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ “นายก..เบี้ยว” นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี หรือไม่ เรื่องนี้จะช้าไม่ได้เพราะ กกต.มีมติในการให้ใบเหลือง และดำเนินคดีอาญากับเจ้าของงานไปแล้ว