มทประเมินสถานการณ์อุทกภัย พร้อมให้กำลังใจปกป้อง จนท.ปฏิบัติงานเร่งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม สั่งเร่งสำรวจความเสียหายเยียวยาประชาชน อุตุฯเตือน 16-17 ก.ย. ฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอประชาชน 47 จังหวัดรับมือเฝ้าระวัง ด้านจ.เชียงใหม่ ฝนถล่มเศียรพระโบราณวัดดังดอยสะเก็ดหักโค่น สุดอาลัยกู้ภัยเอสเสียชีวิต หลังทำภารกิจสำคัญช่วยผู้ประสบภัย
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ถนนอู่ทองนอก เมื่อวันที่ 15 ก.ย.67 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เพื่อติดตามสถานการณ์ภาพรวม การให้ความช่วยเหลือ และบัญชาการสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคอีสาน โดยมี น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย น.ส.ศุภมาส อิสรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมการประชุม ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, กรมอุตุนิยมวิทยา, สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ, สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ GISDA, สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สนทช., กรมชลประทาน และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย, เลย, หนองคาย, อุบลราชธานี และพระนครศรีอยุธยา
โดย นายอนุทินได้กำชับการปฏิบัติงาน และการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ว่า การดำเนินการใดที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานสามารถทำได้ ก็ขอให้ดำเนินการทันทีโดยยึดเจตนารมณ์เป็นหลัก ไม่ต้องรอการสั่งการ และไม่ตั้งกังวลใครจะมาวิพากษ์วิจารณ์ ตำหนิ หรือแม้กระทั่งการตั้งคณะกรรมการสอบ โดยให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ว่า ไม่ต้องกลัว ถ้าทำดีแล้ว พวกตนทุกคนพร้อมที่จะปกป้องอย่างเต็มที่ หรือการถูกตั้งสอบสวน หรือถูกดำเนินคดีใดๆ รัฐมนตรีต้องรับผิดชอบเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานได้ เพราะมิเช่นนั้นแล้ว จะไม่สามารถปฏิบัติงานใด ๆ ได้เลย ดังนั้น จึงขอให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเชื่อมั่นในเจตนารมณ์และทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งตนมั่นใจว่า เราจะผ่านทุกอย่างไปได้ด้วยดี
นายอนุทิน ได้กล่าวย้ำว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการ ผ่านเลขาธิการนายกรัฐมนตรีในการให้การช่วยเหลือประชาชน ซึ่งหากงบประมาณไม่เพียงพอก็สามารถขอขยายวงเงินเข้ามาเพิ่มได้ ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้สั่งการขยายงบวงเงินไปยังจ.เชียงรายและเชียงใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ก็ขอให้เตรียมการอย่าให้สะดุด พร้อมกำชับให้หน่วยงานราชการ ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ เร่งดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อคืนความเป็นปกติให้กับประชาชนเหล่านั้น เพราะแม้ตนเองจะลงพื้นที่แล้วพบรอยยิ้มของประชาชน แต่หากเร่งไม่ปรับปรุงแก้ไข รอยยิ้มก็อาจจะเป็นความโกรธขึ้นมาก็ได้
สำหรับการเยียวยานั้น นายอนุทิน ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการมายังกระทรวงมหาดไทย ให้สำรวจความเสียหายของประชาชนครัวเรือนต่าง ๆ เพื่อเตรียมพิจารณาแนวทางในการชดเชยเยียวยาความเสียหายให้กับประชาชนเป็นรายครัวเรือน ซึ่งจะต้องรีบดำเนินการ เพราะนายกรัฐมนตรีได้เตรียมงบประมาณไว้เรียบร้อยแล้ว ในส่วนการเยียวยาเพิ่มเติมจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย ก็ได้นำเสนอให้นายกรัฐมนตรีแล้วเช่นกัน และได้รับความเห็นชอบในหลักการแล้ว แต่ในการดำเนินการ จะอยู่ภายใต้อำนาจการจัดการของกระทรวงมหาดไทย พร้อมยืนยันว่า การเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น จะต้องไม่เพียงแค่การลดค่าน้ำ ค่าไฟเป็นพิธี อย่างการประปาส่วนภูมิภาค ที่จะประชุมในวันที่ 25 ก.ย.นี้ ตนก็ได้เร่งประชุมพิจารณาในวันที่16 ก.ย. ทันที
ด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยฉบับ 7 (188/2567) จากฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย และคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนในช่วงวันที่ 15-17 ก.ย.67 ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งมีดังนี้ วันที่ 16-17 ก.ย. ภาคเหนือ ได้แก่ น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ เลย ชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ขณะที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 12 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ หนองคาย เลย อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปราจีนบุรี รวม 39 อำเภอ 182 ตำบล 797 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,073 ครัวเรือน เร่งระดมทรัพยากรเข้าพื้นที่ประสบภัย ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและเร่งคลี่คลายสถานการณ์โดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ เมื่อเวลา 07.00 น. ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ที่อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม อยู่ที่ระดับ 11.38 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ (14 ก.ย.67) 0.48 เมตร (48 เซนติเมตร) ต่ำกว่าระดับวิกฤต 0.62 เมตร และต่ำกว่าระดับตลิ่ง 1.62 เมตร ซึ่งระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นได้ท่วมลานคอนกรีตริมแม่น้ำโขงที่ท่าเทียบเรือเพื่อการท่องเที่ยวของเทศบาลเมืองนครพนม สูงประมาณ 50 เซนติเมตร จึงต้องงดให้บริการเรือเพื่อการท่องเที่ยวเป็นการชั่วคราว
สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่ใต้ลานพญาศรีสัตตนาคราช ได้มีการเก็บและขนย้ายสินค้าและสิ่งของต่าง ๆ ออกจากร้านค้าหมดแล้วทุกร้าน ตามการแจ้งเตือนของจังหวัดนครพนม ซึ่งระดับน้ำต่ำกว่าพื้นร้านค้าประมาณ 30 เซนติเมตร ส่วนที่ลานพญาศรีสัตตนาคราช ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม และพื้นที่ใกล้เคียง ยังคงมีนักท่องเที่ยวและประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวและมีกิจกรรมต่าง ๆ ตามปกติ เนื่องจากยังไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำโขงที่เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด
ส่วนที่จ.เชียงใหม่ จากรณีมรสุมพาดผ่านภาคเหนือขอไทยทำให้หลายพื้นที่เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน หลายพื้นที่เกิดน้ำป่าไหลหลาก ทำน้ำท่วมหนัก และเนื่องจากฝนตกติดกันหลายวัน ส่งผลให้ ที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระอารามหลวง ใน ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พระนอนขนาดใหญ่ ปูนซีเมนต์ตรงช่วงเศียรพระ พังถล่มลงมา
โดยเพจเฟซบุ๊ก คนล้านนา ได้โพสต์ภาพพระนอนขนาดใหญ่ที่ตรงเศียรพระหักโค่นลงมา พร้อมระบุข้อความว่า "เชียงใหม่ สภาพพระนอน วัดพระธาตุดอยสะเก็ด พระเศียรหัก (คอหัก) เนื่องจากฝนตกหนัก ปูนซีเมนต์อุ้มน้ำหนักไม่ไหวพังถล่มลงมา ล่าสุดทางวัดเร่งสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมแล้ว
ขณะที่ จ.บึงกาฬ มีรายงานว่า สถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่านจังหวัดบึงกาฬ ช่วงเช้าวันนี้วัดได้ 13.40 เมตร เพิ่มขึ้นจากเย็นวานนี้ 10 เซนติเมตร อยู่ต่ำกว่าตลิ่ง 0.60 เมตร (ตลิ่ง 14.00 ม.) ส่งผลให้ในพื้นที่บริเวณลานพญานาค ต.ปากคาด อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ ที่ถูกน้ำโขงล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ และชุมชนลุ่มต่ำที่อยู่ตามซอกซอยใกล้ลานพญานาค ในเขตเทศบาลตำบลปากคาด ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก 10 -20 ซม.
วันเดียวกัน เฟซบุ๊ก Dolchanok Punyodyana โพสต์ข้อความ ระบุว่า หลังเสร็จภารกิจเรากลับเข้าโรงแรมนั่งทานข้าวกัน มันเป็นอาหารที่อร่อยเอสทานเยอะมาก เอสบ่นว่าตัวเองน่าจะกรดไหลย้อนขอตัวกลับห้องก่อน เราก็นั่งคุยกับลุงดิ๊บต่ออีกซัก 1 ชม. ก็แยกย้ายกันกลับห้อง ไม่นานลุงดิ๊บโทรมาว่าพี้ต้อยเอสไม่หายใจ เรากับน้องอีกคนวิ่งไปอย่างเร็ว ไปถึงพบเอสตัวเริ่มซีดหยุดหายใจ
เราก็ทำ CPR น้องอีกคนวิ่งไปตามกู้ภัยเพราะในรีสอร์ทมีแต่กู้ภัยพัก มีน้องๆ นับ 10 คน มาช่วยกันเอารถกู้ชีพพาไปส่งรพ.แม่สาย แต่ด้วยเวลาที่หยุดหายใจนานเกินไป เอสได้จากพวกเราไปอย่างสงบ ใครรู้จักลุงดิ๊บ,เอส จากมูลนิธิ ดิ อาร์ค ร่วมกันไว้อาลัยให้เพื่อนเราด้วยกัน
ด้าน เฟซบุ๊ก มูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ Watchdog Thailand Foundation WDT โพสต์ข้อความระบุว่า #ขอร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสีย คุณเอส จาก มูลนิธิ ดิ อาร์ค ชีวิตนี้เพื่อสัตว์และสังคม เมื่อวานเรายังปฏิบัติหน้าที่ #ทีมแม่สาย ร่วมกันอยู่เลย
สำหรันบ คุณเอสจากมูลนิธิ ดิ อาร์ค เป็นหนึ่งในจิตอาสากู้ภัย ที่เข้าไปร่วมช่วยเหลือประชาชน และสัตว์ต่างๆ ที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย