เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา นายรวิศ สอดส่อง บุตรชาย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะ เดินทางมาร่วมงานเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบงานวันชาติสหรัฐเม็กซิโก โดยมี นางอิลเซ ลิเลียน เฟร์เรร์ ซิลบา (Ilse Lilián Ferrer Silva) เอกอัครราชทูตสหรัฐเม็กซิโกประจำประเทศไทย ให้การต้อนรับ ณ โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล กรุงเทพฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหรัฐเม็กซิโกตั้งอยู่ทางตอนล่างของทวีปอเมริกาเหนือเป็นส่วนหนึ่งของลาตินอเมริกาขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในลาตินอเมริกาและใหญ่เป็นอันดับที่ 15 ของโลกมีพื้นที่ 1,972,500 ตารางกิโลเมตร หรือมีขนาดเป็น 4 เท่าของไทย ภูมิประเทศมีความหลากหลายและบางพื้นที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก ทิศเหนือติดสหรัฐอเมริกา ทิศใต้ติดกัวเตมาลา และเบลีซ ทิศตะวันออกติดอ่าวเม็กซิโกและทะเลแคริบเบียน ทิศตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิกและอ่าวแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเม็กซิโกเป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทยในลาตินอเมริการองจากบราซิล ประชากรมีรายได้ต่อหัว (GPD per Capita) 11,496 เหรียญสหรัฐฯ (ปี 2566) และเป็นประเทศแรกในลาตินอเมริกาที่เป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development: OECD)

นอกจากนี้ ยังมีความตกลงด้านสิทธิประโยชน์ทางการค้ากับประเทศต่างๆ เช่น ความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement: NAFTA) ซึ่งปัจจุบันได้ใช้ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ - แคนาดา - เม็กซิโก (United States - Mexico - Canada Agreement: USMCA) แทนที่ NAFTA และเป็นสมาชิกของกรอบความร่วมมือ อาทิ APEC, G-20, และกลุ่มพันธมิตร แปซิฟิก (เปรู โคลอมเบีย ชิลี และเม็กซิโก) และข้อตกลงความครอบคลุมและความก้าวหน้าเพื่อหุ้นส่วนทางการค้าภาคพื้น เอเชียแปซิฟิก (CPTPP) ซึ่งการเป็นสมาชิกภายใต้กรอบความร่วมมือต่างๆ ส่งเสริมมูลค่าการค้าระหว่างประเทศของ เม็กซิโกให้สูงขึ้นด้วย

ภายหลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 เม็กซิโกประกาศแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยมีมาตรการที่สำคัญ นอกจากนี้ เม็กซิโกเตรียมพัฒนาศักยภาพการแขงขันทางการค้า เศรษฐกิจดิจิทัลและนวัตกรรม ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงให้ความสำคัญกับการสร้างความหลากหลายทาง เศรษฐกิจ การขยายความร่วมมือด้านการค้ากับประเทศในยุโรปและจีนเพื่อลดการพึ่งพาทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ