เมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่ บช.น.พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.เอกศิษฐ์ วรกิตติ์ ฐากรณ์ รอง ผกก.สส.1 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.กก.สส.บก.น.5 , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.วศิน อินทร์แก้ว สว.ฝอ.บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น รอง สว.กก.สส.4 บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร รอง สว.กก.2 บก.สส.ภ.2 , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา รอง สว.กก.สส.1 บก.สส.บช.น. กับพวกร่วมกันสืบสวนขยายผลติดตามจับกุมนายอนณหรือนายทศกัณฑ์หรือชื่อเจมส์ อายุ 32 ปี (ขอสงวนนามสกุลเพื่อปกปิดผู้เสียหาย) ผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมายจับ ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.641/2567 ลงวันที่ 19 ส.ค. 67 ข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน",หมายจับศาลแขวงปทุมวันที่ จ.114/2566 ลงวันที่ 6 พ.ย. 66 ข้อหา "ฉ้อโกง",หมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.365/2566 ลงวันที่ 1 พ.ค. 66 ข้อหา "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” และหมายจับศาลแขวงสมุทรปราการที่ จ.75/2566 ลงวันที่ 28 เม.ย. 66 ข้อหา “ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฯ"
พบประวัติคดีอาญา 7 คดี 1.วันที่ 21 มี.ค. 63 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง” พื้นที่ สภ.ผึ่งแดด จ.มุกดาหาร 2.วันที่ 16 ก.ค. 65 ถูกจับกุมข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน" พื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 3.วันที่ 29 ธ.ค. 65 ถูกดำเนินคดีข้อหา "ฉ้อโกง" พื้นที่ สน.ปทุมวัน 4.วันที่ 15 ก.พ. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา "ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น" พื้นที่ สน.ทองหล่อ 5.วันที่ 30 มี.ค. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา "ความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฯ” พื้นที่ สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 6.วันที่ 7 เม.ย. 66 ถูกดำเนินคดีข้อหา "ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ" พื้นที่ สน.หัวหมาก 7.วันที่ 31 ก.ค. 67 ถูกดำเนินคดีข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน" พื้นที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
โดยล่าสุดศาลจังหวัดธัญบุรี ได้อนุมัติหมายจับแล้วในข้อหา "ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและเป็นการกระทำต่อผู้สืบสันดาน" แต่หลังจากเรื่องแดงขึ้นคนร้ายไหวตัว ทำลายหลักฐานถอดกล้องวงจรปิดในเรือนวิปริตก่อนหลบหนีออกนอกพื้นที่ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงส่งชุดสารวัตรแจ๊ะติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้ จนได้เบาะแสว่าหลบหนีไปอยู่ที่บ้านเช่าในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.เพชรบุรี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม โดยขณะจับกุมเจ้าตัวอยู่กับแฟนสาวภายในบ้านพัก คนร้ายทำท่าที "ดึงเข้ม" ใส่ชุดสืบสวน ปฏิเสธว่ามิได้ลงมือข่มขืนบุตรสาวตัวเองและมิได้ทำเว็บโป๊ แต่เมื่อเค้นสอบขยายผล จนได้ข้อมูลว่าคนร้ายรายนี้วางแผนกับแฟนสาวทำมิดีมิร้ายกับบุตรสาวจริง ไม่ว่าจะแอบวางยาและวางแผนการอื่นๆ และยังพบว่าคนร้ายเปิดเป็น Admin กลุ่มลับ "มิกิ" ไลฟ์สดโป๊เปลือยแนววิปริต โดยตระเวนให้แฟนของตัวเองไปนอนกับชายอื่นแล้วถ่ายไลฟ์สดจำนวนมาก และที่ทำให้อึ้งเพราะชุดสืบสวนพบแชทการวางแผนของคนร้ายที่จะให้ชายอื่น "มามีเพศสัมพันธ์กับบุตรสาวตัวเอง" และยังพบหลักฐานการ "แบล็คเมล" หลอกให้เด็กสาววัย 15 ปี ถ่ายเรือนร่างแล้วขู่เอาเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท
จากการสอบสวน นายอนณ (สงวนนามสกุล) หรือ "เจมส์ทศกัณฑ์" ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า "ตนเองไม่ได้ทำหนังโป๊ แต่ที่ตำรวจพบคือการไลฟ์สดการมีเพศสัมพันธ์ ส่วนที่บุตรสาวแท้ๆของตนไปแจ้งความเพราะว่าตนไม่ยอมซื้อโทรศัพท์ไอโฟนให้ลูก ลูกเลยไปแจ้งความดำเนินคดี ส่วนที่ย้ายที่อยู่บ่อยๆไม่ได้เป็นการหลบหนี แต่เพราะต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายจึงเปลี่ยนที่อยู่ ยอมรับว่าทำคลิปโป๊จริง โดยจะให้แฟนคนปัจจุบันเป็นนักแสดงหลัก ตระเวนหาชายอื่นและโลเคชั่นอื่นๆเพื่อถ่ายทำ บางครั้งก็ให้ชายแปลกหน้า 2 คน มามีเพศสัมพันธ์กับแฟนตัวเอง โดยยอมรับว่าเป็นรสนิยมทั้งตนและแฟน แต่ยังปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเช่นนี้กับบุตรสาวตัวเอง เป็นเพราะเด็กกุเรื่องขึ้นมาเอง" จึงทำการสอบสวนขยายผลและนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า คดีสุดสะเทือนใจเมื่อ "พ่อแท้ๆ" จับบุตรสาววัย 14 ปี ขังในบ้านแล้วลงมือข่มขืนบังคับถ่ายคลิปทำ Onlyfan ใช้ชื่อว่า "มิกิ สาวลูกครึ่งญี่ปุ่น" (ระงับแล้ว) ซ้ำยังตระเวนหาชายแปลกหน้ามาข่มขืนลูกและเมียตัวเองแบบ "ทรีซั่ม" กว่า 7 วัน 7 คืนเพื่อจะถ่ายคลิป 18+ ล่าสุด น.1 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งผู้การให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำชุดสืบนครบาลไล่ล่าจนไปจับกุมตัวได้ที่หัวหินขณะกำลังจะตั้งกล้องถ่ายคลิปโป๊กับสาวรายใหม่ เจ้าตัวอ้าง "หาเงินไปเที่ยว" สืบนครบาลไล่ล่าจับกุมตัวได้ที่ อ.หัวหิน ยืนยันเสียงแข็ง "ลูกโกหก เพราะอยากได้ไอโฟน และไม่ได้ทำหนังโป๊ใดๆทั้งสิ้น" แต่เมื่อขยายผลพบหลักฐานความวิตถารจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากการขยายผลพบพยานหลักฐานสอดคล้องไปทางคำให้การของฝ่ายผู้เสียหาย อีกทั้งยังพบหลักฐานการทำลายพยานหลักฐานและการหลบหนีของผู้ต้องหา และยังพบพยานหลักฐานที่เป็นความผิดอีกหลายข้อหา โดยยังพบว่ามีเด็กสาววัย 15 ปี กำลังตกเป็นเหยื่อการแบล็คเมลของคนร้ายอีกด้วย ซึ่งเราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด และจะมีการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมกับผู้ต้องหารายนี้ต่อไป