วันที่ 14 กันยายน 2567 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่โคราชฮอลล์  ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช นายสมเกียรติ  วิริยะกุลนันท์ รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) การประชุมเชิงปฏิบัติการบูรณาการแผนการสร้างพลเมืองคุณภาพ โดยมีภาคีเครือข่าย ศส.ปชต. จำนวน 400 คน ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรมรับฟังการบรรยายจากว่าที่ร้อยตรีทวี  ชุนเกาะ อดีตผู้ตรวจการเลือกตั้งจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะประธานชมรมศูนย์ ศส.ปชต.โคราช พร้อมจ่าสิบตำรวจ (จ.ส.ต) สมพงษ์  ตันดี หัวหน้ากลุ่มงานจัดการและการมีส่วนร่วม สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด (สนง.กกต.จ.) นครราชสีมา นายโกวินทร์  เหิกขุนทด หัวหน้ากลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมือง สนง.กกต.จ.นครราชสีมา และผู้แทนกรมการปกครอง กรมการพัฒนาชุมชน กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กรมกิจการผู้สูงอายุและกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้ทำความเข้าใจนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขและการมีส่วนร่วม “กิจกรรมหมู่บ้านไม่ขายเสียง” การร่างแผนบูรณาการสร้างพลเมืองให้มีคุณภาพเกิดขึ้นจริง 


ทั้งนี้สนามเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขนาดใหญ่ที่สุดและมีงบประมาณมากที่สุดในภูมิภาค ต่อปีมีงบกว่า 4 พันล้านบาทและวันที่ 19 ธันวาคม นี้ ผู้บริหารชุดปัจจุบันจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.คนปัจจุบันคือนางยลดา  หวังศุภกิจโกศล หรือ “มาดามหน่อย” บ้านใหญ่เสิงสางเพื่อไทยโคราช ภรรยาของ “กำนันป้อ” นายวีรศักดิ์  หวังศุภกิจโกศล เจ้าของโรงแป้งมันเอี่ยมเฮง อดีต รมช.คมนาคมและผู้เป็นแม่ของนางสาวสุดาวรรณ  หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ซึ่งนางยลดา ไม่ลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระแน่นอนและไม่หวั่นไหวคู่แข่งแต่อย่างใด จะลงสมัครรักษาเก้าอี้โดยมีฐานเสียง ส.ส เพื่อไทย 12 เขต จ.นครราชสีมา และสมาชิกสภา (ส.อบจ.) นครราชสีมา ผู้บริหาร อปท. ให้การสนับสนุนชัดเจน ขอเอาผลงานตลอดระยะเวลา 4 ปี เป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประชาชนตัดสินใจ

ส่วนพรรคประชาชนหรือด้อมส้มโคราช ประกาศไม่ส่งผู้สมัครนายก อบจ. แต่จะส่ง ส.อบจ. อ.เมือง 8 เขต และ อ.ปากช่อง 4 เขต ซึ่งนายมารุต  ชุ่มขุนทด หรือกอล์ฟ ซีอีโอ “คลาสคาเฟ่” กาแฟแบรด์ดังท้องถิ่น ในฐานะแกนนำ “พัฒนาเมืองโคราช” ได้เสนอตัวจะสมัครนายก อบจ.ในนามด้อมส้มและลงพื้นที่พบปะผู้นำชุมชนและชาวบ้านจนครบเป้าหมาย 289 ตำบล ต้องผิดหวัง ได้ตัดสินใจลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.ในนามกลุ่มอิสระ ชูนโยบาย นำเทคโนโลยีมาเปลี่ยน อบจ.ให้มีความทันสมัย, เปิดเผยงบประมาณทุกบาทให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้, เน้นพัฒนาศักยภาพเยาวชน สู่การเป็นสตาร์ทอัพ, หมดยุคท้องถิ่นผู้รับเหมาและทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เป็นต้น

 

ด้าน “เสี่ยปาน” นายวิรัช  รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีกระแสข่าวดีลกับแกนนำพรรคก้าวไกล (ชื่อเดิม) เตรียมส่ง “ปลัดแบงค์” นายอธิรัฐ  รัตนเศรษฐ อดีต รมช.คมนาคม ลูกชายคนโต ลงสมัคร นายก อบจ. พร้อมส่งคนใกล้ชิดและนักการเมืองท้องถิ่นสังกัดบ้านตาลคู่ (รัตนเศรษฐ) เดินเคาะประตูบ้านระดมแจกใบสมัครสมาชิก ก.ก. แต่การเจรจาไม่ลงตัว ล่าสุดครอบครัวบ้านตาลคู่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.6 คน เหลือเสี่ยปานยังไม่ทิ้งลุงป้อม ส่วนลูกชายนายอธิรัฐ จะไปนั่งเป็นเลขานุการนางนฤมล  ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตร ล่าสุด อดีต ส.ส เขตโคราช สังกัดพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และ พปชร.และกลุ่มการเมืองท้องถิ่นได้นัดพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้ง อบจ.และเทศบาล เพื่อสรรหาผู้สมัคร นายก อบจ.นครราชสีมา เสนอชื่อเป็นบุคคลในครอบครัวรัตนเศรษฐ แต่นายวิรัช นิ่งสยบความเคลื่อนไหว เนื่องจากปัญหา พปชร.ยังคุกรุ่น แต่มีแนวโน้มอาจส่งชื่อนาทีสุดท้าย