“พร้อมพงศ์” ยื่น "กกต. " ถอดถอน ตัดสิทธิ์ทางการเมือง “ลุงป้อม” ยุบพรรคพลังประชารัฐ หลังปรากฏคลิปเสียงเรียกรับเงิน แทรกแซงแต่งตั้งข้าราชการมท.

วันที่ 13 ก.ย.67 เมื่อเวลา 10.00 น.นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์  อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ยื่นถอดถอนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และส.ส.บัญชีรายชื่อ จากกรณีคลิปเสียงหลุด อ้างว่า “เรียกรับเงิน” และ “แทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงมหาดไทย“ ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่ทางรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ช่อง 9 MCOT เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า จากคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ออกมา มีทั้งคลิปเสียงที่เป็นการสนทนาระหว่าง "ลุง" ที่มีเสียงคล้ายพลเอกประวิตรพูดคุยกับนายโอ๋ ซึ่งเป็นชื่อเล่นของนายชัยวุฒิ ในลักษณะทวงถามและเรียกรับเงิน และคลิปเสียงสนทนาระหว่างพลเอกประวิตรกับนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ส่อไปในลักษณะแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปสู่การใช้อำนาจดึงงบประมาณมาให้พลเอกประวิตร พฤติการณ์ของพลเอกประวิตรถือเป็นการกระทำที่ผิดทั้งทางกฎหมายและผิดจริยธรรมร้ายแรง รวมทั้งผิดข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุไว้ว่า “ไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ”

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า พลเอกประวิตร ในฐานะที่เป็นอดีตรองนายกรัฐมนตรี และส.ส.บัญชีรายชื่อ จะต้องประพฤติตนโดยถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ต้องไม่ขอ ไม่เรียก ไม่รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือผลประโยชน์อื่นใด ที่สำคัญพลเอกประวิตร ไม่มีหน้าที่และอำนาจเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงมหาดไทยและแทรกแซงงบประมาณ ซึ่งเป็นเงินของแผ่นดินที่จะต้องจ่ายได้โดยชอบด้วยกฎหมายตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง

"พฤติกรรมของพลเอกประวิตร น่าจะมีเจตนาเพื่อเอาประโยชน์จากงบประมาณแผ่นดิน เพื่อทุจริตงบประมาณแผ่นดิน ถือเป็นการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญ และกระทำผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 46 วรรค 2 ที่ห้ามมิให้ผู้ใดให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมือง สมาชิก หรือผู้ใด เพื่อจูงใจให้ตนหรือบุคลอื่นได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือตำแหน่งในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือในหน่วยงานของรัฐ รวมทั้งฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตาม ม.160(4)(5) มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

จึงขอให้กกต. พิจารณาไต่สวน และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 เพื่อถอดถอนและเพิกถอนสิทธิทางการเมืองพลเอกประวิตร รวมทั้งยุบพรรคพลังประชารัฐ ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ประกาศและข้อบังคับประมวลจริยธรรมฯ ต่อไป