วันที่ 12 ก.ย.2567 เวลา 22.20 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาวาระ คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 บรรยากาศเป็นไปอย่างเข้มข้น มีการประท้วงกันระหว่าง สส.พรรคประชาชน และสมาชิกวุฒิสภา(สว.)ที่มีการกล่าวถึงการปฏิวัติไม่มีปัญหา ซึ่งถูกมองว่าเป็นคำพูดที่ไม่เคารพรัฐธรรมนูญและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
โดยพ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ สว. อภิปรายตอนหนึ่งว่า นโยบายของรัฐบาลมีผู้เป็นห่วง และอยากให้นำไปปฏิบัติให้อยู่รอดปลอดภัย ตามข้อความที่ว่า ครม. สุจริต เสียสละ สามัคคี ทั้งนี้นโยบายรัฐบาลนั้นขายฝีน เป็นพิมพ์เขียวอย่างเดียว หากปฏิบัติได้ต้องใช้วเลา ตนขอเอาใจช่วยรัฐบาลให้ทำนโยบนายที่ขายให้สำเร็จ โดยประเทศไทย ปกครองด้วยระบบนิติรัฐ ไม่ใช่ปกครองด้วยระบบตามอำเภอใจ ในประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญที่ระบุว่าต้องทำให้ได้โดยเร็ว ขอให้คิดใหม่ โดยรัฐบาลไปแก้ปัญหาปากท้องประชาชนให้ได้ ค่อยมาแก้ หากอยู่ถึง 3 ปี
“รัฐธรมนูญที่ใช้อยู่ ไม่ได้ห้ามแก้ไข แต่ผมขอให้ไปดู 3 มาตรา คือ มาตรา 3 ว่าด้วยรัฐสภา ครม. ศาล องค์กรอิสระและหน่วงานของรัฐ ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรมเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศและผาสุขของประชาชนส่วนรวม และขอฝากไปทำการบ้าน ในมาตรา 25 มาตรา 50 และมาตรา 77 หากจะแก้ปัญหาอะไรจะสร้างภาระให้ประชานหรือขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญไม่ได้ ได้ยินท่านบอกว่ารัฐธรรมนูญเป็นปัญหา จริงๆรัฐธรรมนูญไม่ใช่ปัญหา การปฏิวัติไม่ใช่ปัญหา แต่คนโกงเป็นปัญหาและเป็นต้นเหตุ” พ.ต.อ.กอบ กล่าว
ทำให้นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ประท้วง ให้ถอนคำพูดว่าปฏิวัติไม่เป็นปัญหา ซึ่งการพูดดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า สว.ไม่เคารพรัฐธรรมนูญและไม่เคารพการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ที่ต้องเคารพนิติรัฐนิติธรรม ให้ถอนคำพูด เพราะคำแบบนั้นพูดไม่ได้ในสภาแห่งนี้
โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ประธานการประชุมวินิจฉัยว่า ไม่ต้องถอนคำพูดดังกล่าว เพราะเป็นความคิดเห็นของ พ.ต.อ.กอบ และสามารถพูดได้เนื่องจากไม่ผิดข้อบังคับการประชุมรัฐบาล ที่ห้ามพูดคำหยาบ คำเสียดสี ทำให้นายชุติพงศ์ ประท้วงคำพูดของนายวันมูหะมัดนอร์ ว่าการวินิจฉัยดังกล่าวเท่ากับการรับรองว่าการปฏิวัติไม่เป็นปัญหา ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ ได้ยืนยันในคำวินิจฉัยพร้อมชี้แจงเพิ่มเติมว่า “การพูดเรื่องปฏิวัติเป็นความเห็นของ พ.ต.อ.กอบ แต่เมื่อไม่เห็นด้วยก็เป็นความเห็นของท่าน และผมไม่ได้ยอมรับเรื่องการปฏิวัติ ในสภา ความคิดเห็นแลกเปลี่ยนได้หากไม่ผิดข้อบังคับ ทั้งนี้ผมสะกิดใจแต่เรื่องนี้เป็นความคิดเห็น"
ทำให้นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ข้อบังคับการประชุมรัฐสภากำหนดให้สมาชิกยึดหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตนเคารพคำวินิจฉัยของประธานรัฐสภา ที่ระบุว่าไม่ต้องถอน แต่ขอเรียกร้องให้ สว. ถอนเพื่อให้เป็นเกียรติของสภาที่อยู่ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ทำให้ พ.ต.อ.กอบ ลุกชี้แจงอีกครั้งว่า สิ่งที่ตนนำมากล่าวที่สภาฯ นั้นเป็นคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช อดีตนายกฯ แต่เวลาน้อย ทำให้ข้อความขาด ที่บอกว่าไม่เคารพรัฐธรรมนูญ แต่ตนเคารพมากกว่าด้วยซ้ำ
ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ไม่อนุญาตให้อภิปรายเพราะกล่าวถึงบุคคลภายนอก และเสียชีวิตไปแล้ว จากนั้นได้ให้สมาชิกรัฐสภาในลำดับต่อไปได้อภิปราย