สนง.ปภ.รวมทีมขับเคลื่อน“สมุทรสาครโมเดล” แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุช่องผ่านทางรถไฟ 93 จุดในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 12 กันยายน 67 ร้อยตำรวจตรี สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้า สนง.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะอนุกรรมการฯ และเลขานุการ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองการอนุญาตและแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนระดับจังหวัด รายงานผลการดำเนินงาน “สมุทรสาครโมเดล” ในฐานะได้มอบหมายจาก นายผล ดำธรรม ผวจ.สมุทรสาคร ร่วมกับคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการอนุญาตและแก้ปัญหาจุดตัดทางรถไฟกับถนนระดับจังหวัด โดยมีผู้เข้าร่วมแก้ไขปัญหาทางลักผ่านฯเขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร ซึ่งประกอบด้วย นายชัชวาลย์ วงษ์วรรณ รองนายก อบต.นาโคก อ.เมืองสมุทรสาคร, พ.จ.อ.โยธิน ผาพรม หน.งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ นางสมฤดี หาญกล้า กำนันตำบลนาโคก, นายภราดร กลิ่นนิล สารวัตรกำนันนาโคก พร้อมด้วย นายตรวจทางสมุทรสงคราม, ผู้แทนกองควบคุมการปฏิบัติการ, สารวัตรงานเดินรถแขวงสมุทรสาคร และจนท.การรถไฟแห่งประเทศไทย ก่อนเร่งสำรวจเพื่อจัดทำและวิเคราะห์ข้อมูลทางลักผ่าน/จุดตัดทางรถไฟกับถนน เพื่อเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาทางลักผ่านพื้นที่สมุทรสาครเพื่อช่วยลดอุบัติเหตุ ณ บริเวณจุดตัดดังกล่าว
รวมถึงเพื่อให้สอดคล้องและเป็นไปตามนโยบาย นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในโครงการแก้ไขปัญหาทางลักผ่านอย่างจริงจัง และสามารถเกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
ร้อยตำรวจตรี สัณฐิติ ธรรมใจ กล่าวว่า ล่าสุดวันนี้ได้มีการลงพื้นที่สำรวจทางลักผ่าน/จุดตัดทางรถไฟกับถนน อ.เมืองสมุทรสาคร ในเขตรับผิดชอบของผู้บริหาร อบต.นาโคก รวมทั้งหมด 7 จุด ซึ่งเป็นเขตพื้นที่ลำดับท้ายสุดของจุดลักผ่านฯ ของ จ.สมุทรสาคร จากมีทั้งสิ้นรวม 93 จุด ดังนั้นจึงได้ร่วมกันออกสำรวจตรวจเส้นทางลักผ่าน/จุดถนนตัดทางรถไฟในจังหวัดฯ ของรถไฟทั้ง 2 สาย ได้แก่ สายวงเวียนใหญ่ -มหาชัย และสายบ้านแหลม -แม่กลอง โดยได้ทำการที่ผ่านมาตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ 24 ก.ค.2567 ตามลำดับ
“ทั้งนี้สำหรับขณะนี้ทางจังหวัดสมุทรสาครก็ได้เร่งขับเคลื่อนผลักดันตามโครงการ (สมุทรสาครโมเดล) ซึ่งเป็นนโยบายในการจัดทำถนนเลียบทางรถไฟ (Local road) ที่สามารถเชื่อมต่อกับจุดตัดทางรถไฟอย่างได้รับการอนุญาต เพื่อให้พี่น้องได้ใช้จุดตัดทางดังกล่าวที่ได้รับอนุญาตและอย่างถูกต้อง ตลอดจนมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยต่อไป
ด้วยเหตุนี้ขอฝากขอความร่วมมือถึงประชาชนโปรดใช้ความระมัดระวังเมื่อยามขับขี่ยานพาหนะผ่านจุดทางตัดกับรถไฟ ก็เพื่อเป็นการช่วยกันป้องกันอุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัยซึ่งอาจเกิดขึ้น ตลอดจนด้านแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินประชาชนเองอักด้วย”
