อ.ส.ค.รณรงค์การบริโภคนมใน “วันดื่มนมโรงเรียนโลก” ประจำปี 2567 พร้อมเดินหน้ารณรงค์ส่งเสริมคนไทยดื่มนมมากขึ้น เพื่อสนองนโยบายกระทรวงเกษตรฯ ที่ตั้งเป้าหมายให้คนไทยบริโภคนม 25 ลิตร/คน/ปีภายในปี 2569

นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า ตามที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO) ได้กำหนดให้วันพุธสุดท้ายของเดือนกันยายนของทุกปีเป็น “วันดื่มนมโรงเรียนโลก” หรือ The World School Milk Day สำหรับโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนในประเทศไทยได้ดำเนินการมาแล้วกว่า 32 ปีนับจากปี พ.ศ. 2535 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์ของนักเรียนและเพื่อสนับสนุนการใช้น้ำนมดิบในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมของรัฐ ซึ่งสามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำนมดิบล้นตลาดของเกษตรกรได้  โดยในส่วนของ อ.ส.ค.ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมนมของประเทศรู้สึกยินดีที่ “วันดื่มนมโรงเรียนโลก” เวียนบรรจบครบรอบอีก 1ปี อ.ส.ค.มีความมุ่งมั่นในการเดินหน้ารณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยหันมาดื่มนมมากขึ้นเทียบเท่ามาตรฐานสากลเพื่อให้คนไทยมีสุขภาพพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปราศจากโรคภัย

นายสมพร กล่าวด้วยว่า นมและผลิตภัณฑ์จากนมมีความสำคัญต่อโภชนาการของคนตลอดทุกช่วงชีวิต โดยเฉพาะวัยเด็กมีความสำคัญเป็นอย่างมากในกระบวนการเจริญเติบโต เพราะนมเป็นแหล่งอาหารที่มีแร่ธาตุแคลเชียมสูง นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโปรตีน เกลือแร่ต่างๆ เช่น ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม โพแทสเซียม คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และวิตามิน ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟันให้แข็งแรง ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย มีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทและสมอง   

ดังนั้น เราควรดื่มนมอย่างน้อยวันละ 2 แก้วต่อวัน หรือประมาณ 400 มิลลิลิตร เพื่อการมีสุขภาพที่ดี และแข็งแรง โดยที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตั้งเป้าหมายให้คนไทยบริโภคนม 25 ลิตร/คน/ปีภายในปี 2569 อ.ส.ค.ได้ให้ความสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมให้คนไทยหันมาดื่มนมมากขึ้น  โดยตลอดปีที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมรณรงค์การดื่มนมอย่างต่อเนื่อง  เพื่อกระตุ้นให้คนไทยทุกเพศ ทุกวัยหันมาดื่มนมมากขึ้น  รวมทั้งเร่งวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่มีหลากหลายในรสชาติจะช่วยกระตุ้นและจูงใจให้คนหันมาดื่มนมมากยิ่งขึ้น เช่น พัฒนาผลิตภัณฑ์นม ไทย-เดนมาร์คแลคโตสฟรี (Thai-Denmark Lactose Free) เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นมาตอบโจทย์คนที่แพ้นม หรือทานแล้วเกิดอาการท้องเสีย หรืออาการข้างเคียงอื่นๆ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ให้ทำให้อัตราการดื่มนมของคนไทยน้อยกว่าประเทศอื่นค่อนข้างมากและเพื่อแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆไปยังกลุ่มผู้บริโภค   ในอนาคต อ.ส.ค. ยังคงมุ่งมั่นในการผลิตผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำอย่างครบวงจรและมีความหลากหลายเพื่อเสริมสร้างโภชนาการที่ดีขึ้นให้แก่คนไทย 

สำหรับผลดำเนินงานโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน หรือโครงการนมโรงเรียน อ.ส.ค.ในฐานะหนึ่งในผู้ประกอบการนมโรงเรียนได้ให้ความสำคัญตั้งแต่ต้นทางการผลิตจนถึงปลายทางตั้งแต่โรงงานการผลิต มาตรฐานการขนส่งจนถึงโรงเรียน โดยในระบบการผลิตคุมเข้มตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงโคนมต้องได้มาตรฐานระดับ GAP เพื่อส่งเสริมสุขภาพโคนมให้ได้คุณภาพมาตรฐานเพื่อผลิตน้ำนมให้ได้คุณภาพดี ส่วนโรงงานผลิตนมต้องได้มาตรฐานตาม GMP ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และระบบการขนส่งนมก็ต้องได้คุณภาพมาตรฐานตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดด้วย ซึ่งโครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนถือเป็นโครงการที่มีประโยชน์ส่งเสริมสุขภาพ พลานามัยของเด็กไทยให้แข็งแรง และยังช่วยเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้มีอาชีพที่ยั่งยืนอีกด้วย