เมื่อวันที่ 12 ก.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนฟรานซีน (Francine) พัดขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของรัฐลุยเซียนา เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้เมืองนิวออร์ลีนส์และพื้นที่ในเขตกัลฟ์โคสต์เผชิญลมกระโชกแรง รวมทั้งฝน และคลื่นพายุซัดฝั่ง (Storm Surge) ส่งผลให้เจ้าหน้าที่สั่งอพยพประชาชนหลายพันคน

ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ รายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนฟรานซีนมีความเร็วลมสูงสุดอยู่ที่ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากที่จุดศูนย์กลางของพายุเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่ตอนใต้ของของรัฐลุยเซียนา ห่างจากเมืองนิวออร์ลีนส์ไปทางตะวันตก-ตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 105 กิโลเมตร

รายงานข่าว แจ้งว่า ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ยกระดับความรุนแรงของพายุเฮอร์ริเคนฟรานซีนจากระดับ 1 เป็นระดับ 2 ตามมาตรวัดแซฟเฟียร์-ซิมป์สัน (Saffir-Simpson) ซึ่งมี 5 ระดับ เพียงไม่นานก่อนที่พายุเฮอร์ริเคนลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่ง แต่แม้ว่าเฮอร์ริเคนจะอยู่ที่ระดับ 1 กำลังลมที่อันตรายอย่างมากของเฮอร์ริเคนระดับนี้ก็สามารถสร้างความเสียหายได้ โดยพื้นที่ทั้งหมดของเขตกัลฟ์โคสต์ในรัฐลุยเซียนาและมิสซิสซิปปีได้รับการเตือนภัยเกี่ยวกับคลื่นพายุซัดฝั่ง

สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (BSEE) ระบุว่า 39% ของการผลิตน้ำมันดิบ และ 49% ของการผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวเม็กซิโกได้ถูกระงับแล้วเมื่อวานนี้

ข้อมูลจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) ระบุว่า อ่าวเม็กซิโกทางตอนเหนือซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสหรัฐฯ มีการผลิตน้ำมันในสัดส่วน 15% ของการผลิตน้ำมันดิบทั้งหมดในสหรัฐฯ และผลิตก๊าซธรรมชาติในสัดส่วน 2% ของการผลิตทั้งหมดภายในประเทศ


#พายุเฮอร์ริเคนฟรานซีน #ลุยเซียนา #สหรัฐ #ข่าวต่างประเทศ