เมื่อสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ ผนึกกำลังความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐ-เอกชน สานต่อโครงการพัฒนาต่อยอดอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชน เตรียมจัดงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO 2024 ระหว่างวันที่ 28 - 30 กันยายน 2567  ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ภายใต้แนวคิด เชียงรายมีดี ชาดี กาแฟดี ชูจุดแข็งจังหวัดเชียงรายในการเป็นจุดหมายปลายทาง Destination Branding ของการจัดงานไมซ์ (MICE) ด้านชาและกาแฟ ในระดับนานาชาติ สานต่อยุทธศาสตร์ความร่วมมือในทุกมิติเพื่อส่งเสริมระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เชื่อมโยงทุกห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) เพื่อสนับสนุนศักยภาพพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของไทยให้เป็นศูนย์กลางการค้า การลงทุน อุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวด้านชา-กาแฟของภูมิภาคอาเซียน

ตอกย้ำเชียงรายแหล่งผลิตชา-กาแฟ

โดย นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวว่า ในปีพุทธศักราช 2517 หลังจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนิน ในพื้นที่อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โครงการหลวง ทั่วพื้นที่ภาคเหนือจึงรับพระราโชบาย ให้เกษตรกรริเริ่มปลูกกาแฟในฐานะของพืชทดแทนพืชเสพติด ซึ่งนำมาสู่ความหมายสำคัญ ในการแก้ปัญหายุทธศาสตร์ของชาติ จนประเทศไทยหลุดพ้นจากรายชื่อประเทศผู้ผลิตฝิ่น จากมุมมองขององค์กรระหว่างประเทศได้สำเร็จ

 

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา

ซึ่ง ปีนี้เป็นการครบ 50 ปี ของเส้นทางสายพันธุ์กาแฟอาราบิก้ายุคใหม่ ที่มีการค้นคว้า พัฒนาอย่างจริงจัง ส่งผลให้ปัจจุบัน ตลาดกาแฟของประเทศไทย เติบโตขยายใหญ่มากขึ้น ผลผลิตได้รับการยอมรับจากทั้งในระดับประเทศและสากล ชา กาแฟ จึงไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่มีความสำคัญต่อเรื่องราววิถีชีวิต ที่เกี่ยวพันกับชุมชน จากขุนเขาสู่เมืองใหญ่ จากไร่ชา กาแฟ สู่คาเฟ่หลายหมื่นแห่งทั่วประเทศ และทวีความหมายอย่างยิ่งต่อพี่น้องเกษตรกรตลอดจนผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้

ด้วยศักยภาพของจังหวัดเชียงรายดังกล่าว ทางทีเส็บจึงได้ส่งเสริมการสร้างชื่อเสียง หรือ Destination Branding ตอกย้ำให้เชียงรายเป็นแหล่งผลิตชาและกาแฟคุณภาพชั้นเลิศ ครอบคลุมการดำเนินงานในทุกมิติอย่างยั่งยืน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้แปรรูป ตลอดจนผู้ประกอบการ นับเป็นส่วนหนึ่งของการขยายขีดความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางการจัดงานไมซ์ ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นที่มีศักยภาพให้เชียงรายเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดนักเดินทางไมซ์จากต่างประเทศ

ทำงานร่วมกับชุมชนต่อเนื่องยาวนาน

ด้าน หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล เลขาธิการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นส่วนสำคัญในการยกระดับ ชา-กาแฟ จังหวัดเชียงรายในครั้งนี้  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มีภารกิจต่อการทำงานร่วมกับชุมชนอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถอดบทเรียนความรู้ จากวิกฤติในแต่ละช่วงเวลาของ ชา-กาแฟ สร้างองค์ความรู้ที่สำคัญให้แก่ชุมชน และจังหวัดเชียงรายได้อย่างมีนัยยะสำคัญ

 หม่อมหลวงดิศปนัดดา ดิศกุล

สำหรับงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO ครั้งนี้ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจจากจังหวัดเป้าหมาย มาร่วมเรียนรู้เส้นทางกาแฟในกิจกรรมเส้นทางเชิงสร้างสรรค์ และการสร้างเครือข่ายระหว่างเกษตรกร เชื่อมโยงการจัดงานแสดงสินค้า ผลิตภัณฑ์ในโครงการดอยตุง ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต และการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ชุมชน จากภารกิจของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ เพื่อร่วมสื่อสารผ่านกิจกรรมการจัดงานแสดงสินค้า การจัดการประชุมนานาชาติ และกิจกรรมการพัฒนาศักยภาพและสร้างเครือข่ายธุรกิจ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาต่อยอดให้อุตสาหกรรมสร้างสรรค์และสินค้าชุมชน ที่สร้างสรรค์จากชาและกาแฟอันเป็นเลิศของจังหวัดเชียงราย เป็นหมุดหมายสำคัญของผู้คนทั่วไปที่จะเข้ามาเยี่ยมชมและเรียนรู้ศักยภาพของจังหวัดเชียงรายต่อไปในอนาคต

 

เป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของเครือข่าย

ส่วนนาง สุพัตรา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักนโยบายองค์กรสัมพันธ์และภาพลักษณ์ บริษัท กลุ่ม เซ็นทรัล จำกัด กล่าวเพิ่มเติมถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า   ในฐานะภาคีเครือข่ายชา-กาแฟ เชียงราย เซ็นทรัล ได้ให้การสนับสนุนผ่านโครงการ CENTRAL THAM ที่ได้ส่งเสริมเกษตรกรอย่างครบวงจร โดยได้กลุ่มพัฒนากลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ปลูกกาแฟอินทรีย์รักษาป่า ลดการตัดต้นไม้ทำลายป่า ลดหมอกควันเพิ่มพื้นที่สีเขียว พัฒนาชุมชน

สุพัตรา จิราธิวัฒน์

ภูชี้เดือน ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ที่ประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนจากการผลิตกาแฟพันธุ์ รวมถึงการทำโรงคั่วกาแฟ ขยายช่องทางการขาย ส่งเสริมการทำการตลาด จนสร้างแบรนด์ “ภูชี้เดือน” ได้สำเร็จ การจัดงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO 2024 ในครั้งนี้ เซ็นทรัลพร้อมที่จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวร่วมกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์เดียวกัน

ขณะที่ นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ กล่าวถึงรายละเอียดการจัดงาน WORLD TEA & COFFEE EXPO 2024 ว่า การจัดงานครั้งนี้ประกอบไปด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย เป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของเครือข่ายเกษตรกร นักวิชาการ ผู้ประกอบการ และ นักลงทุนจากทั่วประเทศ ที่จะมาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนมุมมองต่ออุตสาหกรรมชาและกาแฟของไทย การจัดนิทรรศการจากองค์กรเครือข่ายแสดงศักยภาพของชากาแฟภาคเหนือ, โซนองค์ความรู้ 50 ปี เรื่องราวกาแฟบนภูดอย, การออกร้านจำหน่ายสินค้า ผลิตภัณฑ์จากชาและกาแฟร้านท้องถิ่นของจังหวัดเชียงรายและภาคเหนือรวมกว่า 50 บูธ เช่น สวรรค์บนดิน โรงงานชาสุวิรุฬห์, กิจกรรมเวิร์คช้อปการชงชา การดริปกาแฟสายพันธุ์พิเศษ, กิจกรรมการชิมชา 36 ชนิด, กิจกรรมการโชว์ลาเต้ อาร์ตศิลปะบนแก้วกาแฟอันน่าทึ่ง พร้อมดื่มด่ำไปกับบทเพลงจาก แก้ม-วิชญาณี และกิจกรรมร่วมสนุกรับของรางวัลมากมาย

ภูริพันธ์ บุนนาค

นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาให้ความรู้เรื่อง ชา-กาแฟ รวมไปถึง กิจกรรมการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถทางการแข่งขันในอุตสาหกรรมชากาแฟ พร้อมนำเสนอเส้นทาง        การท่องเที่ยวที่จะมอบประสบการณ์ครั้งใหม่ที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์บนเส้นทางสายไมซ์ การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้อต่อห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ของอุตสาหกรรมชาและกาแฟ ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ผลิต ผู้แปรรูป ผู้ประกอบการ สนับสนุนให้เกิดกิจกรรมทางการตลาด พร้อมสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้ง    ในและต่างประเทศได้อย่างครบวงจร