นางจิรณี พิมผุย รองประธานแปลงข้าวใหญ่ หมู่ 1.9 ต.ลมศักดิ์ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ (วิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่) กล่าวถึงที่มาของการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ข้าวว่า จากปัญหาที่ขาดแคลนเงินทุนในการจ้างรถมาไถนา และทำการเกษตร รวมทั้งถ้าต่างกันต่างทำ และขายข้าวรายเดียวจะได้ราคาต่ำ จึงรวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชนนาแปลงใหญ่ เมื่อปี 2561โดยมีนายสมิตร มีบุญ เป็นประธาน มีสมาชิก 60 ราย พื้นที่ 753 ไร่ แบ่งเป็นปลูกข้าวอินทรีย์ 106 ไร่ ซึ่งได้การรับรองมาตรฐาน Organic Thailand เรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระยะปรับเปลี่ยนปลูกข้าวอินทรีย์ 647 ไร่
จากการรวมกลุ่มเป็นนาแปลงใหญ่ ทำให้กลุ่มฯ เข้มแข็ง และมีอำนาจในการต่อรองด้านราคา และการขอสนับสนุนงบประมาณในการช่วยเหลือจากภาครัฐ โดยผลิตภัณฑ์ข้าวของกลุ่มมีหลากหลาย ทั้งข้าวกล้องงอกหอมมะลิ ข้าวกล้องงอกมะลิแดง ข้าวกล้องงอกเพชรราตรี ข้าวกล้องงอกไรซ์เบอรี่ รวมทั้งได้มีการแปรรูปเป็นน้ำข้าวกล้องงอก และข้าวกล้องงอกแบบผง โดยส่งจำหน่ายตามออเดอร์ และออกบูธตามหน่วยงานราชการ และขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อยื่นขอสนับสนุนงบประมาณในการปรับปรุงสถานที่ในการผลิตสินค้าแปรรูปตามเกณฑ์มาตรฐาน อย.
รองประธานแปลงข้าวใหญ่ หมู่ 1.9 ต.ลมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กลุ่มฯ มีแนวคิดที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องงอก และข้าวกล้องงอกแบบผงให้เป็นสินค้าเกษตรมูลค่าสูง เพราะประโยชน์ข้าวกล้องงอก ประกอบด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์มากมาย ได้แก่ สารกาบ้า (GABA) กลุ่มโปรตีนที่ช่วยบำรุงเซลล์ประสาท ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ช่วยผ่อนคลาย ทำจิตใจให้สงบ หลับสบาย ลดความเครียด ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค สามารถจะดันเป็นสินค้าดีประจำชุมชนของเราได้เลย แต่ยังติดปัญหาเรื่องอุปกรณ์ในกระบวนการแปรรูป เช่น เครื่องอบข้าว และโรงเรือนการผลิตที่ได้มาตรฐาน จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยสนับสนุน เพื่อยกระดับกลุ่มฯ ให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น