นางธนพร บุญคำ ประธานแปลงใหญ่ข้าว หมู่ที่ 12 ต.สามง่าม อ.สามง่าม จ.พิจิตร กล่าวถึงที่มาของการรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ข้าวว่า การรวมกลุ่มเป็นแปลงใหญ่ข้าว เพื่อสร้างอำนาจการต่อรองในการซื้อ ขาย ทั้งวัตถุดิบซื้อได้ในราคาถูกกว่า และการขายสามารถขายในราคายุติธรรมกว่าการขายใครขายมัน ซึ่งได้เริ่มรวมกลุ่มตั้งแต่ปี 2554 ปัจจุบันมีสมาชิก 38 ราย พื้นที่เพาะปลูก 6,480 ไร่ โดยมีการอบรมให้องค์ความรู้เรื่องการผลิตข้าวและการใช้สารเคมีอย่างถูกวิธี ด้วยนวัตกรรมต่างๆ จนสามารถบรรลุเป้าหมายในการผลิต คือ มีกำไรเพิ่มขึ้น 20% และสามารถลดต้นทุนในการผลิตลง 20% รวมทั้งนาแปลงใหญ่ผ่านการรับรองมาตรฐาน GAP และมีแผนจะส่งเสริมสมาชิกทำเป็นอินทรีย์ แต่ขึ้นอยู่ความพร้อมของสมาชิก ถ้าใครสนใจจะทำอินทรีย์ กลุ่มฯก็มีตลาดอินทรีย์ที่จะรองรับผลผลิต 

สำหรับพันธุ์ข้าวที่สมาชิกปลูกส่วนใหญ่ เป็นข้าวขาวพื้นแข็ง อายุสั้น 90-100 วัน และข้าวพันธุ์ กข 79 เพราะมีการทำบันทึกข้อตกลงซื้อขายกับกับโรงสี เนื่องจากกลุ่มฯ ยึดหลักการตลาด นำการผลิต ส่วนผลิตภัณฑ์ของกลุ่มฯ บางส่วนที่สีเป็นข้าวสารจำหน่าย จะเป็นข้าวพันธุ์พื้นเมือง มีสมาชิกปลูก 5 ราย พื้นที่ 100 กว่าไร่ นอกจากนี้ ข้าวที่สมาชิกปลูกจะขายให้กับโรงสีทั้งหมด และไปซื้อข้าวสารมากิน ไม่ได้เก็บไว้กินในครัวเรือนเลย กลุ่มฯ จึงได้ส่งเสริมสมาชิกเก็บข้าวไว้กินเองด้วย เพื่อลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน


ประธานแปลงใหญ่ข้าว หมู่ที่ 12 ต.สามง่าม กล่าวว่า อย่างไรก็ดี กลุ่มฯ มีแนวคิดที่จะอนุรักษ์ข้าวพันธุ์พื้นเมือง ซึ่งเป็นข้าวเก่าของจังหวัดพิจิตร คือ ตอนนี้เรากำลังตามหาสายพันธุ์ข้าวพันธุ์นี้ เพื่อเอามาเพิ่มผลผลิตให้ได้เป็นข้าวพื้นแข็ง ที่เหมาะกับการทำขนมจีนมากที่สุด ซึ่งสอดรับการโครงการสินค้าเกษตรและบริการมูลค่าสูง "1 ท้องถิ่น 1 สินค้าเกษตรมูลค่าสูง" ที่รัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ โดยมองว่า สินค้าเพิ่มมูลค่าในเชิงของเกษตร หรือเชิงพาณิชย์ ต้องมีอัตลักษณ์ พร้อมยกระดับเป็นสินค้า GI ของเมืองพิจิตร