ศึกดีเบต “ทรัมป์ - แฮร์ริส” โต้วาทีอย่างดุเดือด หลังต่างฝ่ายต่างแสดงวิสัยทัศน์คนละด้าน พร้อมโจมตีคู่แข่งระหว่างกันในประเด็นต่างๆ
เมื่อวันที่ 11 ก.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การอภิปรายโต้วาทีประชันวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ของผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 (พ.ศ. 2567) ระหว่างนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในฐานะผู้สมัครฯ ของพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้สมัครฯ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีขึ้นที่ศูนย์คอนสติติวชันเนชันแนลเซ็นเตอร์ ในเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย โดยสถานีโทรทัศน์ข่าวเอบีซีนิวส์ เป็นเจ้าภาพจัดการดีเบต เมื่อช่วงค่ำของวันอังคารที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงวิสัยทัศน์มุมมองในประเด็นต่างๆ ที่แตกต่างกันไปคนละด้าน
เริ่มจากประเด็นเศรษฐกิจและค่าครองชีพ ที่รองประธานาธิบดีแฮร์ริส เสนอแผนลดหย่อนภาษี มูลค่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ ผู้เริ่มธุรกิจรายย่อย พร้อมกล่าวหาอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่า ทำให้เกิดภาวะขาดดุลการค้าและค่าครองชีพของชาวสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น จากการที่ดำเนินนโยบายตั้งกำแพงภาษีการค้ากับต่างประเทศ ซึ่งอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ แก้ต่างว่า กำแพงภาษีถูกนำมาใช้กับประเทศที่เอาเปรียบสหรัฐฯ มาเป็นเวลาหลายปี เช่น จีน เป็นต้น ก่อนตอบโต้กลับว่า เป็นเพราะรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีนางแฮร์ริส เป็นรองประธานาธิบดี ที่ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจ รวมถึงภาวะเงินเฟ้อ รวมไปถึงปัญหาการทะลักของผู้อพยพ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ดีเบตในประเด็นอื่นๆ อีก เช่น กฎหมายการทำแท้ง ปัญหาผู้อพยพ เหตุจลาจล 6 มกราฯ รวมถึงปัญหาสงครามกาซา และสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งในประเด็นหลังนี้ อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่า หากเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี จะไม่มีสงคราม หรือจบสงครามโดยเร็ว ทางด้านรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ตอบโต้ว่า การที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ จะไม่สนับสนุนต่อยูเครน เท่ากับเป็นการยอมแพ้ และทำให้รัสเซียเป็นฝ่ายชนะสงคราม ซึ่งเป็นอันตรายต่อชาติพันธมิตรอื่นๆ
พร้อมกันนี้ ทั้งสองฝ่ายได้กล่าวปิดการดีเบต โดยรองประธานาธิบดีแฮร์ริส กล่าวเรียกร้องให้ชาวสหรัฐฯ ก้าวข้ามอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ แล้วมองไปข้างหน้า ส่วนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวโจมตีรองประธานาธิบดีแฮร์ริส รวมไปถึงพรรคเดโมแครตว่า ไม่ทำอะไรในช่วงที่มีอำนาจตลอดระยะเวลากว่า 3 ปีที่ผ่านมา