วันที่ 11 ก.ย.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการลงชื่อของสมาชิกวุฒิสภา เพื่ออภิปรายนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในที่ประชุมรัฐสภาวันที่ 12 - 13 ก.ย. ว่า พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ได้แจ้งว่าจากที่สว. ได้รับจัดสรรเวลาอภิปราย รวม 4 ชั่วโมง  30 นาที และมีสว.ที่ประสงค์ลงชื่ออภิปรายรวมทั้งสิ้น 57 คน  ทำให้มีเวลาให้อภิปรายคนละประมาณ 5 นาที

ทั้งนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่าการเข้าชื่อของสว.เพื่อแจ้งความประสงค์อภิปรายนโยบายนั้นมีการกำหนดให้สว.ระบุประเด็นที่จะอภิปรายเพื่อกำหนดเป็นหัวข้อเพื่อเรียงลำดับความเหมาะสม และก่อนหน้านั้นมี สว.ที่ต้องการขอใช้สิทธิอภิปราย กว่า 70 คน แต่ตอนหลังได้ขอถอนรายชื่อออก เนื่องจากเวลาที่ได้รับจัดสรรนั้นมีน้อยเกินไป ทำให้ขณะนี้จำนวนของสว.ที่จะได้สิทธิอภิปรายนั้นยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน

ด้านนายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา สว.กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ระบุว่า ตนได้ลงชื่ออภิปรายนโยบายรัฐบาลไว้ด้วย แต่มีคนลงชื่อกว่า 70 คน ซึ่งมีคนพูดเพื่อขอให้พิจารณาถอนชื่อ ซึ่งตนคิดดูแล้วว่าเวลาที่ได้คนละ 4-5 นาทีอาจทำให้ไม่ได้สาระที่จะพูดครบและตรงประเด็น จึงถอนชื่อตนเองออกมา และหลังจากที่สว.ลงชื่อแล้ว ได้มีการเรียกประชุมผู้อภิปราย โดยมีการกำชับให้ทำการบ้านกันให้ดี เพื่อให้ผู้อภิปรายนั้นเป็นหน้าเป็นตาของวุฒิสภา และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสภาสูง อีกทั้งต้องแสดงให้เห็นว่ามีความสามารถที่จะอภิปรายด้วย เพราะการอภิปรายนโยบายรัฐบาลนั้นมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนรับชมด้วย

ขณะที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มสื่อมวลชน ให้สัมภาษณ์ว่าตนเป็น 1 ในสว.ที่จะอภิปรายนโยบายรัฐบาล โดยจะเน้นกระทรวงอว. ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่ามีการขอให้ สว.ถอนชื่อจากการอภิปราย แต่ยอมรับว่าตอนลงชื่อนั้นต้องระบุกระทรวงหรือหน่วยงานที่จะอภิปรายด้วย ซึ่งตนเข้าใจว่าเป็นการจัดการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการการอภิปรายเท่านั้น

ด้านพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง กล่าวว่า ขณะนี้ชื่อของสว.ที่จะอภิปรายมีจำนวนมาก จึงคิดว่าจะทำอย่างไรให้สว.ที่จะอภิปรายในประเด็นเดียวกันหรือซ้ำซ้อนกันให้เหลือผู้อภิปรายน้อยจะได้มีเวลาได้มากขึ้น เพราะหากมีจำนวนมากทำให้เวลาเหลือน้อยจะทำให้การอภิปรายเนื้อหาสาระไม่ครอบคลุมครบประเด็น แต่ถ้ายืนยันไม่มีการถอนก็ยินดี เพราะสว.แต่ละท่านก็มีมุมมอง และความคิดที่ดีแตกต่างกันไป

“ยืนยันไม่มีการขอให้ถอนชื่อ แต่อยากให้ได้เวลาอภิปรายกันมากขึ้น หากประเด็นไหนเหมือนกันเท่านั้น”พล.อ.เกรียงไกร กล่าว