วันที่ 11 ก.ย.67 ที่ศาลาว่าการ กทม.ดินแดง ตัวแทนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรโครงการ 30 กว่า 50 คน รอเข้าพบนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนผู้บริหารตลาดนัดจตุจักรกรณีไม่ต่อสัญญาให้ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรโครงการ 30 ทั้งที่โครงการอื่นได้รับการต่อสัญญาปกติ ทำให้ผู้ค้าในโครงการ 30 ซึ่งมีประชาชนที่ค้าขายและลูกจ้างกว่า 529 ครอบครัวได้รับความเดือดร้อน ต้องออกจากพื้นที่

 

โดยผู้ค้าฯมีการยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ขอคืนสิทธิและต่อสัญญาให้ผู้ค้าโครงการ 30 ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ระบุต้องต่อสัญญาทุกโครงการ 32 สัญญาเดิม 2. ตั้งคณะกรรมการคนกลางให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ปัญหาความโปร่งใสในการบริหารพื้นที่ของภาครัฐและที่ทำมาหากินของประชาชนในตลาดนัดจตุจักรเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนและสงบสุข 3. ให้สำนักงานกรุงเทพกรุงเทพมหานครและเจ้าหน้าที่ตลาดนัดจตุจักรปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีปี 2561 และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร

 

ผู้ค้าตลาดนัดโครงการ 30 มองว่า ผู้บริหารตลาดนัดจตุจักร ขาดความโปร่งใส เลือกปฏิบัติ ละเมิดกฎหมายสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรโครงการ 30 ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบเรื่องสิทธิการทำมาหากินโดยสุจริต ส่งผลเสียหายต่อประชาชน ผู้ค้าและรายได้ภาครัฐอย่างรุนแรง

 

ด้านนายชัชชาติ กล่าวว่า ผู้ค้าโครงการ 30 ที่มาร้องเรียนเป็นผู้ค้าที่กางเตนท์อยู่ตรงกลางตลาดนัดจตุจักร บริเวณหอนาฬิกา กลุ่มนี้ทำสัญญาเป็นรายปีอยู่แล้ว ต้องทำความเข้าใจว่าในปัจจุบันสำนักงานตลาดมีแผนจะพัฒนาปรับปรุงตลาด เพราะเชื่อว่าจะพัฒนาตลาดให้ดีขึ้นได้ ดังนั้นจะต้องลงไปดูในรายละเอียดว่าจะช่วยเหลือผู้ค้ากลุ่มนี้อย่างไร เพราะเป็นผู้ค้าที่ไม่ได้อยู่ในตัวโครงการตลาดนัดจตุจักร 

 

"ต้องทำความเข้าใจว่า การพัฒนาตลาดนัดจตุจักร ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไม่ใช่พื้นที่ของกทม. เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่รับมาตามมติ ครม.นานแล้ว และ กทม.ต้องจ่ายค่าเช่า ดังนั้นคงจะต้องมาคุยกัน ถ้ากทม.ไม่เชี่ยวชาญด้านการจัดทำตลาด ควรจะคืนพื้นที่กลับไปให้ รฟท. ไปจัดการ เพราะการจะทำอะไรภายในตลาดนัดจตุจักรไม่ใช่ว่าทำได้สะดวก เพราะต้องขออนุญาตกับรฟท.ก่อน แค่จะติดตั้งเสาไฟจะต้องขออนุญาตก่อน เพราะ กทม.ไม่ใช่เจ้าของพื้นที่ อย่างไรก็ตามต้องพิจาณาว่าอะไรคือประโยชน์สูงสุด เพราะในความจริง กทม.มีภารกิจอีกหลายด้านที่ต้องดูแล ถ้าไม่เชี่ยวชาญด้านทำตลาด กทม.ควรคืนให้รฟท.ดีกว่าหรือไม่ คงต้องมาหารือกันอีกที" ผู้ว่าฯกทม.กล่าว

 

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ปัจจุบัน กทม.เป็นหนี้ รฟท. เรื่องค่าเช่าที่ดินบริเวณตลาดนัดจตุจักร ซึ่งเป็นหนี้สะสมตั้งแต่ก่อนผู้ว่าฯชัชชาติเข้ามาดำรงตำแหน่ง ในเรื่องนี้ กทม.จะทำหนังสือถึงรฟท. เพื่อขอปรับโครงสร้างหนี้ เพราะคงไม่สามารถนำเงิน 300 ล้านบาท ไปจ่ายเป็นเงินก้อนเดียวขนาดใหญ่ อีกทั้งเงื่อนไขทางกฎหมาย พบว่ายังไม่มีการทำสัญญาระหว่าง กทม.กับ รฟท. มีเพียงการโต้ตอบกันไปมาในเรื่องของกฎหมาย ทำให้ยังไม่มีความชัดเจนทางกฎหมาย จนถึงปัจจุบันยังไม่มีการทำสัญญาระหว่างกัน ดังนั้น กทม.จึงทำหนังสือถึงรฟท.ว่า ยินดีจ่ายค่าเช่าที่ผ่านมา แต่ขอให้จ่ายในลักษณะการปรับโครงสร้างหนี้