สายไหมต้องรอด และทีมงาน พาภรรยาของฝรั่งชาวนอร์เวย์ วัย 71 ปี ที่ประสพเหตุถูกประตูอัตโนมัติหนีบได้รับบาดเจ็บ ภายในบริษัทขนส่งดังแห่งหนึ่ง ย่านถนนกำแพงเพชร ปัดความผิดชอบ เข้าร้องขอความเป็นธรรมตำรวจ

วันที่ 11 ก.ย. 67 นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงานพาภรรยาของชายชาวนอร์เวย์ วัย 71 ปี เดินทางมายัง สน.ประชาชื่น เพื่อติดตามความคืบหน้าการเจรจาไกล่เกลี่ย หลังถูกประตูอัตโนมัติภายในบริษัทขนส่งชื่อดังแห่งหนึ่งปิดกระแทกจนล้มกระดูกสะโพกหัก ขณะกำลังเดินทางไปขึ้นรถทัวร์ของบริษัทดังกล่าวเพื่อเดินทางไป จ.อุดรธานี  

โดยภรรยาของชายชาวนอร์เวย์ผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ตนและสามีรอขึ้นรถของบริษัทดังกล่าว โดยจองตั๋วชั้นเฟิร์สคลาสไว้จํานวน 2 ใบ ซึ่งก่อนขึ้นรถสามีได้เดินออกไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นเดินกลับมาเพื่อเตรียมจะขึ้นรถ โดยสังเกตุเห็นว่าประตูอัตโนมัติเปิดอยู่และคิดว่าระยะเซนเซอร์คือ 180 องศา จึงเดินเข้าด้านข้าง แต่ปรากฏว่าประตูกลับปิดมาชนสามีจนล้มลงทําให้สะโพกกระแทกพื้นหัก หลังเกิดเหตุสามีต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียู โดยทางบริษัทได้นํากระเช้ามาเยี่ยมและบอกว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง ต้องการอะไรให้เขียนแจ้งไป ทางครอบครัวจึงแจ้งไปว่า ต้องการให้ช่วยจ่ายค่ารักษาพยายาล แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ เพราะยังอยู่ระหว่างการรักษา หลังจากนั้นทางบริษัทก็ขอเอกสารต่างๆไป จนล่าสุดปัจจุบันมียอดค่ารักษาพยาบาลกว่า 1.3 ล้านบาท เมื่อส่งเอกสารไป ทางบริษัทกลับบอกว่าจะไม่รับผิดชอบ เนื่องจากไม่ใช่ความผิดของบริษัทหากต้องการเรียกร้องให้ไปฟ้องเอาตามขั้นตอนของกฎหมาย

ซึ่งภรรยาของผู้เสียหาย ยอมรับว่า หลังได้ยินรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะตนและครอบครัวไม่ได้ต้องการให้บริษัทจ่ายทั้งหมด เพียงแต่จ่ายส่วนต่างที่เกินจากยอดของเงินประกันเท่านั้น สําหรับสามีตอนนี้ยังรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู แต่อาการดีขึ้น แต่ตนเกรงว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงขอให้ทางสายไหมต้องรอดเข้ามาช่วยเหลือ

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้ตนไม่ได้บอกว่าใครถูกหรือผิดเพราะเป็นอุบัติเหตุ แต่ต้องการให้ทางตํารวจมีการสอบสวนให้สิ้นกระแสความว่าเกิดจากความผิดพลาดของประตูหรือไม่ หรือเป็นการเข้าใจคลาเคลื่อนเรื่องของระบบเซนเซอร์ประตูอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เพจสายไหมต้องรอดเคยได้รับร้องเรียนเรื่องลักษณะเดียวกันที่เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นทางห้างสรรพสินค้ารับผิดชอบทุกอย่างเพราะถือว่าเหตุเกิดในห้าง