วันที่ 11 ก.ย.2567 เวลา 11.00 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการลาออกของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน จากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง เมื่อ 10 ก.ย. เวลา 16.30 น.
ทั้งนี้ น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน ขออภิปรายเพื่อเสนอความเห็นต่อที่ประชุม ว่า พรรคประชาชนจะรักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ไม่เสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้งนี้ขอฝากไปยังว่าที่รองประธานสภาฯ สานต่อวิสัยทัศน์นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ที่สภาโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นสภาฯของประชาชน และเป็นสภาก้าวหน้ารองรับความหลากหลายและเป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชน
ทั้งนี้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ข้อเสนอแนะ จะนำเข้าสู่คณะกรรมาธิการ (กมธ.)กิจกรสภา ที่ประกอบทุกพรรคกรรเมือง เพื่อปรับปรุงให้สภา ให้กับประชาชนและสส. ขอบคุณที่พรรคประชาชนไม่เสนอผู้เป็นรองประธานสภาฯ รักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ตนเห็นด้วยเพราะตำแหน่งดังกล่าวสำคัญ เป็นกรรมการสรรหาองค์กรอิสะ อยากให้ผู้นำฝ่ายค้านมาจากพรรคใหญ่ของฝ่ายค้านที่คนอื่นทำหน้าที่ไม่ได้ ตนยินดีและขอขอบคุณ
จากนั้นนายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย เสนอให้เปลี่ยนระเบียบวาระเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง และรองประธานสภาฯ คนที่สอง ต่อจากนี้ โดยไม่มีผู้ใดที่ขัดข้อง จากนั้นได้เข้าสู่วาระการเลือก
จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เป็นรองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง จากนั้นนายพิเชษฐ์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติและตรวจสอบฝ่ายบริหาร รวมถึงมีนโยบายให้สภาฯ ใกล้ชิดประชาชน จัดให้มีสภาประจำจังหวัดทดลอง อย่างน้อย 5 จังหวัด ปรับปรุงอาคารรัฐสภาให้สวยงาม สมบูรณ์ สร้างท่าเทียบเรือฝั่งสว. สส. ภายในปี2568 ทำที่จอดรถ 3,000 คันให้ถูกต้องตามกฎหมายของกทม โดยจะรีบให้มีการบริหารความปลอดภัยและการป้องกันอัคคีภัยและจัดชุดป้องกันให้เร็วที่สุด และช่วยงานประธานสภาฯ ให้การประชุมเรียบร้อย เสริมสร้างศักยภาพของสมาชิกให้พัฒนาท้องถิ่น รวมถึงนำรัฐสภาไทยก้าวขึ้นอยู่รัฐสภาผู้นำอาเซียนต่อไป
ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่สอง นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เป็นผู้เสนอชื่อนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เพียงคนเดียว จึงถือว่าเป็นผู้ได้รับเลือกตามข้อบังคับการประชุม
จากนั้นนายภราดร ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า ตนเป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าวฐานะผู้ช่วยประมุขฝ่ายนิติบัญญัติและเป็นเกียรติของคนอ่างทอง ตนใช้เวลาที่สภาฯ 17 ปี เกือบครึ่งชีวิต ตนผูกพันกับองค์กรและสภาเปรียบเป็นบ้านหลังที่สอง แม้สถานะของตนเป็นสมาชิกพรคการเมือง แม้ปฏิเสธไม่ได้ แต่ขอให้คำมั่นสัญญา ไม่เป็นรองประธานสภาฯ ของพรรคภูมิใจไทย หรือฝ่ายรัฐบาล แต่จะเป็นรองประธานสภาฯของ สส. 493 คน และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเต็มที่และทำให้ดีที่สุด ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและทำให้สภาเป็นของประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่น เกียรติยศให้สภาฯ เชิดหน้าชูตาของประชาชน
“จะทำให้เป็นสภาที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นสภาฯของพี่น้องประชาชน จะไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการฉวยโอกาส สร้างประโยชน์ทางการเมืองให้กับพรรคการเมือง หรือให้กับตัวผมเอง ขอย้ำว่าผมจะไม่เป็นรองประธานสภาของพรรคการเมืองใด หรือฝ่ายรัฐบาลแต่จะเป็นรองประธานสภาของสมาชิก 493 คน จากนี้เป็นต้นไป จะปฏิบัติหน้าที่ไม่รู้ว่าจะทำหน้าที่ได้ดี หรือเป็นกลาง ในสายตาของใครได้มากน้อยแค่ไหนแต่ยืนยันว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อสร้างศรัทธา สร้างความเชื่อมั่น สร้างเกียรติยศให้กับสภา ของพี่น้องประชาชน” นายภราดร กล่าว
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนจะรีบนำชื่อทูลเกล้าฯ ถือว่าเป็นบรรยากาศดีมาก ไม่เสียเวลาเรื่องต่างๆ ที่ได้ปะโยชน์น้อย วันนี้เราได้ประโยชน์ล้วนๆ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าตนจะรีบนำความกราบบังคมทูลโปรดเกล้าฯ ถือว่าเป็นบรรยากาศดีมาก ไม่เสียเวลาเรื่องต่างๆ ที่ได้ปะโยชน์น้อย วันนี้เราได้ประโยชน์ล้วนๆจากนั้นได้กล่าวปิดประชุมเพื่อให้สส.เตรียมตัวอภิปรายนโยบายของรัฐบาล ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้
และสั่งปิดประชุมเวลา 11.39 น.