เมื่อวันที่ 10 ก.ย.67 ดร.ณพลเดช มณีลังกา ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟสบุ๊คส่วนตัวระบุ ว่า จากกรณีที่ฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุยางิ ทำให้น้ำจากแม่น้ำสายเอ่อเข้าท่วมตลาดสายลมจอย ย่านการค้าที่ติดกับสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 นั้น จากที่ตนได้ลงพื้นที่เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน หลายรอบแล้ว ร้านค้าบ้านเรือนประชาชน ล้างบ้านกันมาเกิน 10 รอบแล้ว พอพบกับพายุยางิ เข้าไปอีกประชาชน ได้รับความเดือดร้อนเป็นอันมาก จากที่ได้ไปดูพื้นที่ทั้งสองฝั่งชายแดนทั้งพม่าและไทยกับท่านนายด่านศุลกากร ด่านแม่สาย พบว่าการค้าซบเซา การท่องเที่ยบเงียบเหงาลงไปมาก ด้วยการซื้อขายเปลี่ยนรูปแบบเป็นการขายออนไลน์ ทำให้ร้านค้าชายแดนต่างทยอยปิดกันไปเป็นอันมาก ในความเป็นจริงแม่สาย เป็นด่าน 1 ใน 3 ของเชียงราย ที่สร้างมูลค่าสูงสุด การแก้ปัญหาผมอยากให้แนวทางที่เป็นนโยบายทั้งภายในและระหว่างประเทศ ดังนี้ครับ

1.เร่งเยียวยา ประชาชนจากน้ำท่วม จากการสนับสนุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่จะมาบริจาค
2.ผลักดันระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือในภูมิภาคนี้
3.ผลักดัน One Belt One Road เส้นทาง R3B จากไทย-พม่า-จีน
4.ผลักดันรถไฟความเร็วสูง
5.สนับสนุนการค้าขายสินค้าผ่านชายแดน โดยเฉพาะสินแร่ และสินค้าการเกษตร

ซึ่งผมมั่นใจว่าหากรัฐบาล และภาคเอกชน เข้ามาร่วมกันลงทุน และสนับสนุน จะให้เม็ดเงินไหลเวียนมหาศาล แน่นอน เมื่อเม็ดเงินจำนวนมาก GDP จะเติบโต จะส่งผลต่อการบริหารบ้านเมือง การจัดการแหล่งน้ำ และระบบคมนาคม จะส่งผลให้น้ำท่วมแม่สายในอนาคตอาจไม่มีอีกต่อไป