สุรินทร์ สาวใหญ่ใจกล้าบุกขอทองคำคืน "หลวงตาเบ๊าะ" อ้างเอาทองคำและเงินสดเข้าพรรษา สุดท้ายไม่มีทองคืนให้ แต่ขอชดใช้เป็นเงินสด

วันที่ 10 กันยายน 2567 นางสมทวี ดาทอง เข้าร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด กรณีที่แม่ของตนเองถูก หลวงตาเบ๊าะ เจ้าสำนักสงฆ์ป่ายางบ้านพรสุข หมู่ 12 ต.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ มาขอยืมทองคำ จำนวน 1 เส้น น้ำหนัก 1 บาท โดยบอกว่าจะเอาไปเข้าพิธีจำพรรษาและจะทำพิธีปลุกเสกเงินทองเพื่อความเป็นสิริมงคล เมื่อออกพรรษาแล้วค่อยเอามาใช้ จะช่วยทำให้เงินทองเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น จะทำอะไรก็ร่ำรวย ล่าสุดตนได้ยินชาวบ้านเล่าว่ามีคนไปขอเงินคืนแต่ไม่ได้ ตนจึงได้ถามแม่ว่า โดนกับเขาหรือเปล่า แม่เล่าให้ฟังว่าหลวงตาเบ๊าะยืมทองไปจำนวน 1 บาท ตนให้ไปเพราะความศรัทธา โดยไม่คิดว่าจะโดนหลอก เมื่อนางสมทวี รู้ความจริงจึงได้ปรึกษาญาติพี่น้องและเข้าไปทวงถามขอสร้อยทองคำคืน หลวงตาเบ๊าะ เจ้าสำนักฯไม่ยอมออกมาพบ ได้ส่งลูกศิษย์ออกมาเจรจาแทน แต่ตกลงกันไม่ได้ นางสมทวีจึงได้พาแม่และญาติพี่น้องเข้าร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด พอกลุ่มลูกศิษย์หลวงตาเบ๊าะทราบข่าวว่าผู้เสียหายไม่ยอม จึงได้นำเงินมาคืนให้จำนวน 4 หมื่น ในช่วงเวลา 5 ทุ่มของคืนวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา 

นางสมทวี ดาทอง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ที่ตนออกมาร้องทุกข์ในครั้งนี้เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจว่า อย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ เพราะอาจจะถูกหลอกได้ ขนาดพระสงฆ์ที่เคารพนับถือกราบไหว้อยู่ทุกวันยังไว้ใจไม่ได้เลย ตนรู้สึกแปลกใจว่า ทำไมพระสงฆ์จะต้องเอาเงินสดเอาทองคำไปทำพิธีเข้าพรรษาเพื่ออะไร ปกติตนเองจะไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ที่บ้านจะมีคุณแม่และพ่อเลี้ยงอยู่กัน 2 คน ซึ่งก็อายุมากแล้ว

พอได้ยินข่าวว่าแม่ถูกพระหลอกยืมทองคำไปทำพิธีตนเองก็ตกใจ จึงเดินทางมาถามไถ่ พอรู้ว่าแม่ถูกหลอกตนได้ปรึกษาญาติพี่น้องและพากันเข้าไปขอทองคำคืน แต่หลวงตาเบ๊าะไม่ยอมออกมาเจอ ส่งลูกศิษย์มาเจรจาแทนแต่ตนไมยอม ตนต้องการทองคำคืนจึงได้มาร้องทุกข์ต่อเจ้าหน้าตำรวจ สภ.บัวเชด พอฝ่ายหลวงตาเบ๊าะรู้เรื่องจึงให้ลูกศิษย์นำเงินมาคืนให้จำนวน40,000 บาท ซึ่งทองคำทุกวันนี้ราคา4หมื่นกว่าบาท  

นางสมทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ตนรู้มาไม่ใช่เฉพาะคุณแม่ของตนเท่านั่นที่ถูกหลอกลวง ยังมีชาวบ้านอีกหลาย 10 คนที่ถูกหลอกยืมทองคำ ยืมเงินสด คน ละ 3-4 หมื่นบาท บ้างคนก็เป็นแสนบาท จึงอยากให้คณะสงฆ์จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานพระพุทธศาสนา หน่วยงานราชการ เจ้าหน้าตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยลงพื้นที่ตรวจสอบสำนักสงฆ์แห่งนี้ ว่าถูกต้องตามกฏหมายหรือไม ที่สำคัญคือที่ตนได้ยินมาและสอบถามเพื่อนบ้าน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พระสงฆ์องค์นี้มีพฤติกรรมหลอกลวงชาวบ้านแบบนี้ แต่ไม่มีใครกล้าออกมาร้องเรียนหรือดำเนินคดี เพราะกลัวว่าจะถูกทำคุณไสย์มนต์ดำใส่ ตนจึงอยากร้องขอให้หน่วยงานต่างๆช่วยตรวจสอบด้วย อีกทั้งขอเตือนภัยให้ชาวบ้านระวังพระสงฆ์ที่มีพฤติกรรมแบบนี้ให้มากๆ

 

ร.ต.อ.ปชาธัช สายบุตร รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.บัวเชด กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า จากพฤติกรรมที่ชาวบ้านร้องเรียนมานั้นอาจจะเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกงประชาชนได้ แต่ต้องขอดูรายละเอียดอีกครั้ง ถ้าหากชาวบ้านที่ถูกพระสงฆ์รูปดังกล่าวยืมเงินไป หรือยืมทองคำไปเข้าพิธีนั้น กลัวว่าจะไม่ได้เงินคืนก็สามารถเข้ามาแจ้งความดำเนินคดีได้ตามกฏหมายที่ สภ.บัวเชด