อุบัติเหตุรถพ่วงชนกันสนั่น คนขับติดภายใน เจ้าหน้าที่เร่งงัดร่างขาติดภายในนานกว่า 2 ชั่วโมง นำร่างออกจากซากรถทุกลักทุเล โดยทำให้การจราจรถนนโคกพระ คลองทางหลวงติดยาวหลายกิโลเมตร
วันที่ 10 กันยายน 2567 พ.ต.ต.ธนโชค ชินณะวงศา สารวัตรสอบสวนสภ.นครชัยศรี จ.นครปฐมได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนกันบริเวณถนนโคกพระ-คลองทางหลวง มีผู้บาดเจ็บติดภายในรถหมู่ 1 ต.โคกพระเจดีย์ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐมจึงรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ อาสามูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐมอุปกรณ์ตัดถ่าง แพทย์เวรโรงพยาบาลนครชัยศรี ไปยังจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุถนนสายโคกพระพบรถบรรทุกชนกันสภาพด้านหน้ายุบคนขับติดภายในส่งผลให้การจราจรติดอย่างมาก 2 ช่องทางเป็นถนน ลัดจากบ้านแพ้วมาออก ถนนเพชรเกษมได้ เป็นถนนเลนสวนจึงทำให้รถทั้งสองฝั่งสัญจรมาไม่ได้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร จึงทำการปิดเส้นทางเพื่อเร่งกู้ซากรถและคนขับซึ่งทางกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างบริเวณห้องโดยสารของรถบรรทุกพ่วงหมายเลขตัวแม่ ทะเบียน 89-xxxx และลูกพ่วง 89-xxxxนครปฐม ทราบชื่อต่อมานายนครรินทร์ ผู้ขาดเจ็บสวมกางเกงขาสั้นสีน้ำเงินสวมเสื้อยืดคอกชมแขนยาวมีบาดแผลฉกรรจ์ที่ขาข้างขวาและที่ข้อเท้ามีอาการจุกหน้าอกซึ่งบรรทุกทรายมาเต็มคัน สภาพหัวเก๋งพังยับเยิน คนขับบาดเจ็บติดภายใน เนื่องจากชนรูดกับลูกพ่วงรถบรรทุกทรายอีกคันหมายเลข ทะเบียน 86-xxxx ตัวแม่ทะเบียน 86-xxxx นครปฐมลูก ในส่วนผู้ขับขี่รถบรรทุกคันดังกล่าวไม่พบตัวในที่เกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่โดยพยายามเร่งช่วยผู้บาดเจ็บซึ่งเลือดท่วมขาออกมา อย่างทุลักทุเล อย่างอยากลำบากใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่อาสา สามารถนำร่างผู้บาดเจ็บออกจากตัวรถได้ ก่อนรีบนำตัวขึ้นรถฉุกเฉินโรงพยาบาบาลนครชัยศรี ส่งไปรักษาตัวอย่างเร่งด่วน
จากการสอบถามนายธีระภัทร์ (เบ๊นซ์) อายุ 25 ปีชาวบ้านแถวนั้นเล่าว่า ตนเองได้ยินเสียงรถชนกันดังตูมจึงได้วิ่งออกมาดูเมื่อออกมาเห็นรถบรรทุกพ่วงชนกันกีดขวางเต็มถนนซึ่งถนนเส้นดังกล่าวมีรถบรรทุกวิ่งกันเป็นจำนวนมากและใช้ความเร็วและถนนเส้นดังกล่าวเป็นถนนเล็กรถวิ่งสวนเลนกันได้และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งผู้ใช้รถใช้ถนนเส้นดังกล่าวควรระมัดระวังให้มากเพราะถนนเล็กเป็นถนนเส้นทางลัดออกมาจากวัดดอนยายหอมสามารถทะลุมาวัดสว่างอารมณ์และสามารถออกถนนเส้นเพชรเกษมและถนนบรมราชชนนีได้อีกด้วย