เมื่อเวลา 10.25 น.วันที่ 10 ก.ย. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาลนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมเข้าปฎิบัติหน้าที่ในกระทรวงกลาโหมในวันที่ 16 ก.ย.นี้ว่า จะเข้ากระทรวงกลาโหม ในวันที่ 16 ก.ย. เวลา 10.00 น. จากนั้นสักการะศาลหลักเมือง สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงกลาโหม เช่น เจ้าพ่อหอกลอง, พระบวรฉายาสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, พระรูปจอมพลสมเด็จ พระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษี และรูปหล่อจอมพลและมหาอำมาตย์เอกเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี 

 

จากนั้นตนจะรับประทานอาหารร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพื่อพูดคุยกันเบื้องต้น และรับฟังบรรยายสรุปจากผู้บริหารกระทรวงกลาโหม  ก่อนจะมอบนโยบายกว้างๆบางส่วน และเป็นประธานตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ  แต่ช่วงนี้จะขอประชุมเกี่ยวกับนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาก่อน ในวันที่ 12-13 ก.ย. ซึ่งคาดว่าภายหลังจากที่นายกฯแถลงนโยบายจบในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เสร็จสิ้น นายกฯก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เลย ไม่ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาจบในวันที่ 13 ก.ย. เพราะตามกฎหมายเมื่อนายกฯแถลงนโยบายต่อรัฐสภาก็ถือว่าจบแล้ว 

 

เมื่อถามว่า มีแผนที่จะนัดคุยกับบอร์ด 7 เสือ กลาโหม เพื่อพิจารณาการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลเมื่อไหร่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เป็นจุดเริ่มต้นก็จะฟังผู้บัญชาการและผู้บริหารกระทรวงกลาโหมทั้งหมด ตนก็จะเริ่มพูดคุยกับทุกส่วน ซึ่งหัวใจสำคัญคือต้องการที่จะไปรับฟังจากทุกส่วน  และต้องการให้ทุกฝ่ายได้ทราบถึงเจตนาและวัตถุประสงค์ของตนที่เข้าไปทำงาน ว่าตนไม่ได้คิดที่จะเข้าไปขยายอำนาจอะไร แต่คิดว่าต้องการไปร่วมมือกันและสร้างให้กองทัพสามารถอำนวยประโยชน์ให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด และใช้กำลังพลของกองทัพที่มีอยู่อย่างเข้มแข็ง รวมถึงเครื่องไม้ เครื่องมือที่มีอยู่อย่างมากมายจะได้นำไปใช้  ทั้งนี้ คิดว่าวันแรกที่เข้าไปหลังจากตรวจหลังจากตรวจแถวกองทหารเกียรติยศแล้วจะไปตรวจเยี่ยมเหล่าทัพต่างๆ โดยงานแรกคิดว่าจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนทหารที่ได้รับภัยจากการปฎิบัติหน้าที่ ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก  เขาขาดเหลืออะไรก็จะได้ไปช่วยเหลือ 

 

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า จากนั้นตนจะเดินทางไปเยี่ยมกรมสวัสดิการทหารทุกส่วน เพื่อต่อยอดการทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลข้าราชการชั้นผู้น้อย ทั้งเรื่องสวัสดิการและเรื่องต่างๆ ตนจะไปเยี่ยมทุกที่ และสุดท้ายจะเดินทางไปเยี่ยมกองทหารช่าง ของกองทัพบก รวมถึงกองทหารพัฒนา ของกองทัพไทย ซึ่งคิดว่าจะพูดคุยกับผู้บัญชาการกองทัพไทย ย้ำว่านโยบายของตนอยากให้กองทัพสามารถวางแผนในการช่วยเหลือประชาชนตลอดทั้งปี ไม่ใช่เฉพาะในช่วงที่มีภัยพิบัติเท่านั้น

 

เมื่อถามย้ำว่า หนักใจหรือไม่ที่ต้องพิจารณาโผทหารให้เสร็จก่อนวันที่ 15 ก.ย.นี้ เพราะขณะนี้ล่วงเลยเวลามานานแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่น่าหนักใจอะไร เพราะทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีการเปลี่ยนรัฐบาล เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลทุกอย่างมันก็สะดุดหยุดลง ซึ่งเราก็จะใช้ช่วงเวลาที่เราเข้ามาทำให้เร็วที่สุด และพยายามจะทำให้ให้เลยเวลา แต่ถ้ามันเลยเวลาจริงๆเราก็มีเหตุผลที่ทุกคนจะเข้าใจได้  ย้ำว่าต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว ก่อนที่จะมีการโยกย้าย ในเดือนต.ค.นี้กำลังพลจะต้องเจ้ามาขับเคลื่อนงาน เพราะเราอยากให้งานของทุกกรมมีความต่อเนื่อง

 

เมื่อถามอีกว่า จะดำเนินนโยบายของนายสุทิน คลังแสงอดีตรมว.กลาโหมต่อไปหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะขอดูก่อนว่าสิ่งไหนที่เป็นประโยชน์ ก็คงจะเดินหน้าต่อได้ แต่ส่วนไหนที่มีความคิดต่างกันก็คงจะมีการปรึกษาผู้นำเหล่าทัพทั้งหมดก่อน