หนุ่มใหญ่ร้อง ปปป.เอาผิดร้อยเวร สภ.นางรอง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หลังแจ้งความหลานชายได้รับบาดเจ็บจนต้องผ่าตัด

วันที่ 10 ก.ย.67 เวลา 08.30 น.นายอรรถวุฒิ อายุ 49 ปี ผู้ปกครองนายสหัสสะเดชะ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม. 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยอาการของนายสหัสสะเดชะ หลานชายที่ ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีว่า ”แพทย์ศัลยกรรมประสาทและสมองแพทย์คณะแพทย์แจ้งว่าต้องรักษาโดยการปักเข็มไฟฟ้ระบบประสาทสมองส่วนที่อ่อนแรงครึ่งตัวผู้ป่วยอยู่ ซึ่งทำการรักษาได้เฉพาะที่โรงเรียนแพทย์ และในช่วงเช้าวันนี้(10 ก.ย.)ทาง สพฐ กระทรวงศึกษาธิการได้นัดให้ตนเข้าไปให้รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุการบาดเจ็บของหลานชาย“

ทั้งนี้นายอรรถวุฒิ ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพ.ต.ท.หญิง พรธีรา ทองมุณี สว.(สอบสวน) กก.6 บก.ปปป. เมื่อเย็นวานนี้ (9 ก.ย.67) ว่า รอง สว.(สอบสวน) และหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ภ.จว.บุรีรัมย์ ฐาน เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ชอบเพื่อ ให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยทุจริต

จากกรณีที่นายอรรถวุฒิ ได้ไปแจ้งความ ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับครูโรงเรียนนางรอง เมื่อวันที่ 5 ก.ค.67 ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นกับนายสหัสสะเดชะ หลานชายของตน แต่ ร.ต.อ.อนันต์ ไม่ได้ มีการดำเนินการใดๆ ให้กับผู้แจ้ง ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย จึงมาแจ้งความเพื่อให้ดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

นายอรรถวุฒิ เปิดเผยว่า ตนเป็นลุงและเป็นผู้ปกครองของ นายสหัสสะเดชะ  อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม. 4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นนักกีฬาบาสเกตบอล ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการแข่งขันบาสเกตบอลในกีฬาสีของโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 ก.ค.67 เวลาประมาณ 14.00 น. ระหว่างต่อเวลาถูกเพื่อนนักเรียนแทงเข่าเข้าลำตัวก่อนล้มฟาดพื้นหมดสติไป จนต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัวไปรักษาที่ รพ.นางรอง ระหว่างวันที่ 5-12 ก.ค.67 มีอาการอาเจียนเป็นเลือดต้องผ่าตัดวันที่ 10 ก.ค. ผ่านไป 4 วันผู้บริหารของทางโรงเรียนเพิ่งจะไปดูอาการหลานชายตนที่ รพ.กัน โดยตนได้ไปร้องสำนักงานการศึกษาเขตจังหวัดบุรีรัมย์ ทางครูวีรยุทธ (สงวนนามสกุล)ไม่พอใจตนที่ไปร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ ของ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งในคืนวันที่ 5 ก.ค.67 เวลา 20.20 น. ขณะที่หลานชายพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล นางรอง ตึก 4 ชั้น 3ได้มีนายวีรยุทธ ครูผู้สอนของหลานชายได้เดินทางมาพบ ก่อนจะต่อว่าและข่มขู่ว่าจะทำร้ายและฆ่าหลานชายตนสร้างความหวาดกลัวให้กับหลานชาย ตนเห็นเหตุการณ์จึงเข้าห้ามปราบนายวีรยุทธ ก่อนแจ้ง  รปภ.โรงพยาบาลมาเชิญนายวีรยุทธออกไป ก่อนจะทำเรื่องขอย้ายหลานชายมารักษาต่อที่ รพ.รามาธิบดีจนถึงปัจจุบันนี้

โดยการที่หลานชายไม้ได้รับความช่วยเหลือปฐมพยาบาลทันท่วงทีแม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส และยังถูกครูบางคนตามไปคุกคามข่มขู่ถึงโรงพยาบาลทำให้ตนต้องไปร้องเรียนพฤตการณ์ของทางคณะครูรวมทั้งแจ้งความเอาผิดครูที่มาข่มขู่ ทางโรงเรียนยังมีการเบียนบังเงินประกันที่หลานชายตนมีสิทธิได้รับก็ไม่ได้รับอีก แต่ทางโรงเรียนปฏิเสธไม่มีเงินเยียวยาใดๆ ให้แก่นักเรียน แม้เงินประกันอุบัติเหตุกลุ่มก็ไม่ได้รับ อ้างว่าเด็กไม่ได้ทำประกันและไม่สามารถเงินประกันส่วนนี้ได้ แต่เมื่อตนกับ นางดวงมณี   แม่เด็กไปสอบถาม คปภ.จังหวัดบุรีรัมย์ ตรวจสอบพบและมีการยื่นเคลมประกันได้แต่ทางโรงเรียนโอนเงินไป ทำให้เด็กนักเรียนหลายคนรวมทั้งหลานตนเสียประโยชน์ไม่ได้รับเงินเคลมประกันที่โอนไปให้กับครูคนหนึ่งแทน ตนได้ร้องต่อศูนย์ดำรงธรรม และ สำนักงานการศึกษาเขตหลายครั้ง ก่อนจะไปแจ้งความ นอกจากไม่ให้ความยุติธรรมแล้วยังมีการข่มขู่ทำร้ายเอาชีวิตเด็กนักเรียนอีก ทั้งนี้ตำรวจที่บุรีรัมย์ แนะนำให้ตนมาร้องเอาผิดพนักงานสอบสวนที่ บก.ปปป. จึงเดินทางมาวันนี้หลังจากนี้จะพาหลานชายไปร้อง เลขา สพฐ กระทรวงศึกษาต่อไปด้วย