วันที่ 9 ก.ย.2567 ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมาที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง นำอธิบดี หัวหน้าส่วนราชการ สวมเสื้อลายขอสีเขียว สีประจำกระทรวงให้การต้อนรับ จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารหารว่าง พร้อมรับช่อดอกไม้แสดงความยินดีจากข้าราชการ และสมาชิกพรรค อาทิ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุง นายประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ นายพิทักษ์เดช เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช นางอวยพรศรี เชาวลิต สส.นครศรีธรรมราช นายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา นายวุฒิพงษ์ นามบุตร สส.อุบลราชธานี และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์


นายเฉลิมชัย กล่าวว่า การเข้ามาทำงานที่กระทรวงทรัพย์ฯของตนมาเพื่อแก้ปัญหา ไม่สร้างปัญหาเพิ่ม ขณะเดียวกันเห็นแววตาข้าราชการที่มาต้อนรับวันนี้ รู้สึกอบอุ่น ส่วนการแก้ปัญหาที่ดิน ระหว่างกระทรวงทรัพย์ฯและกระทรวงเกษตรฯ เรื่องนี้ขอหารือกับผู้รับปิดชอบโดยตรงก่อน ว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไร แต่ทั้งหมดนี้มาเพื่อแก้ปัญหา และไม่สร้างปัญหาเพิ่ม ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ก็พอรู้ปัญหาที่ดินสปก. ดังนั้นเมื่อมาทำงานที่นี่ ก็เป็นการทำงานที่เกี่ยวข้องกัน โดยจะใช้ความสัมพันธ์นี้ แก้ปัญหาโดยเฉพาะการพิพาทแนวเขตที่ดิน ดังนั้นจึงขอให้ดูงานก่อน


รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ส่วนการเยี่ยมหน่วยงานต่างๆ หากมีเวลาตนเองก็จะลงไป แต่หากไม่มีเวลาก็จะเชิญเข้ามาหารือ มอบหมายให้ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ เป็นผู้ประสาน โดยความตั้งใจที่จะทำงานก่อนนั้น จะมีการหารือ ทำความเข้าใจกับข้าราชการในกระทรวง แต่ต้องรอให้รัฐบาลนั้นแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเสร็จก่อน จึงอาจจะมีการประชุมและมอบนโยบาย และมีหลายเรื่องที่จะต้องเร่งทำ โดยเฉพาะความเดือดร้อนของประชาชน นอกจากงานที่ทำดูแลประชาชน ก็คือ การดูแลข้าราช ลูกจ้าง พนักงาน ในกระทรวง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ก็จะดูแลควบคู่ไปกับงานหลัก

เมื่อถามถึงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ขอให้มีการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ในระดับการรับผิดชอบก่อน

เมื่อถามย้ำการแก้ไขปัญหาป่าทับลาน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า มีเป้าหมายคือประชาชน และเจ้าหน้าที่อยู่ร่วมกันได้


เมื่อถามว่าการแก้ไขปัญหาคอรัปชั่น ไม่ได้อยู่ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า อยากให้ทุกคนมองว่า ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น ไม่จำเป็น จะต้องเขียนไว้ แต่ต้องมีสำนึกของแต่ละคน ให้ เป็นสำนึกของรัฐมนตรี การเขียนหรือไม่เขียนขออย่านำไปเป็นประเด็น แต่ในร่างนโยบายก็มีเรื่องของธรรมาภิบาล การทำงานอย่างโปร่งใส ก็ถือเป็นการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่นอยู่แล้ว แต่หัวใจอยู่ที่สำนึก อย่างน้อยการเป็นนักการเมือง คนดูถูกอยู่แล้ว ดังนั้นต้องทำให้ประเทศชาติ อย่างตั้งใจ และก็จะไม่มีผลตรงนี้ตามมาส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในฐานะที่ตนเป็นนักกฎหมายทนายความ นักกฎหมายทุกคน ได้เรียนรู้ และสอนไว้เบื้องต้นว่า กฎหมายทุกฉบับแก้ไขได้ ถ้ามีความจำเป็น และเหมาะสม


เมื่อถามถึงการเดินหน้า ปราบในทุนผู้บุกรุกป่า นายเฉลิมชัยกล่าวว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย แต่จะใช้คำว่า มนุษยธรรม - มโนธรรม ควบคู่ไปกับการทำงาน ไปด้วย และย้ำว่า ตนเองทำผิดกฎหมายไม่ได้

เมื่อถามว่ารัฐบาลมีนโยบายนำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ขึ้นมาอยู่บนดินนั้น ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลมองเรื่องนี้อย่างไรนั้น นายเฉลิมชัย กล่าวว่า สิ่ง ที่ผิดกฎหมายเมื่อกระทำความผิดก็ต้องโดนจับ แต่หากจะเดินไปได้ก็ต้องทำให้ถูกต้อง โดยการทำให้ถูกต้อง จะต้องออกกฎหมายมาใช้บังคับอย่างไรและบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งถือเป็นหัวใจที่จะต้องแก้ไข เช่นเดียวกับโครงการเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ ที่จะต้องมาหารือกันในรายละเอียด ก่อนที่จะมีการชี้แจง ในขณะที่ตนเองสิ่งไหนที่ทำให้ประเทศชาติได้ประโยชน์ ตนเองก็เห็นด้วย แต่ก็ต้องมีความชัดเจน ต้องไม่เอื้อให้กับนายทุน มีการบริหารจัดการควบคุมดูแลที่ชัดเจน ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบในภายหลัง หากอยู่ในเกณฑ์ดังกล่าว ก็พร้อมจะสนับสนุน