ตำรวจหัวหมาก เร่งล่าหาตัวมือมืดลอบเผารถยนต์
จากกรณีที่มีผู้โพสต์คลิปภาพพร้อมข้อความลงในเพจฯ "โซเชียลฮันเตอร์ 2022" ว่า ช่วงเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายวางเพลิงเผารถยนต์ชาวบ้าน ที่จอดอยู่ในซอยย่านรามคำแหง 2-3 ครั้ง ล่าสุดยังตามจับคนร้ายไม่ได้
วันนี้ (9 ก.ย.) ทางผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ภายในซอยรามคำแหง 2 ได้พบกับหญิงสาวเจ้าของรถยนต์ที่ถูกเผาเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา เมื่อเวลาตีสอง โดยช่วงห้าโมงเย็นได้จอดรถไว้ตามปกติ พอตอนตีสองก็มาเกิดเหตุไฟไหม้ ยามก็เข้ามาเรียก แฟนก็ได้กลิ่นไหม้ จากนั้นแฟนก็เอาถังดับเพลิงไปฉีด เพื่อดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ แต่ดับไม่ได้เลยโทรแจ้งตำรวจ ทางเจ้าหน้าที่ก็มาเร็ว แต่เพลิงไหม้รถไปหมดแล้ว ทางตำรวจก็ยังดำเนินการอะไรไม่ได้ เนื่องจากยังมีความร้อนอยู่
โดยเข้าวันรุ่งขึ้นตำรวจก็เข้ามาเก็บหลักฐาน ซึ่งมีทั้งพระพุทธรูปกับกระดาษ ซึ่งก็ไม่ทราบว่ามันคืออะไร ส่วนมูลค่าความเสียหายกว่าสองแสนบาท ซึ่งหลังเกิดเหตุก็ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.หัวหมาก โดยนำคลิปภาพวงจรปิดที่เห็นตัวผู้ต้องสงสัยมาด้อมๆ มอง ๆ อยู่ที่บริเวณรถและเห็นหน้าชัดเจน ซึ่งเป็นคนเดียวกันกับเคสแรกที่เกิดขึ้น ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ถือว่าแย่มาก ห่วงในด้านความปลอดภัย เพราะตนอยู่กับลูกและผู้สูงอายุ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ในที่เดิม
ด้าน ผกก.สน.หัวหมาก เผยในห้องประชุมว่า ตั้งแต่ต้นปี 67 เป็นต้นมา มีเหตุการณ์ในลักษณะคล้ายกันเกิดขึ้น 2 ครั้ง โดยครั้งแรก เกิดขึ้นวันที่ 24 มิถุนายน 67 ซึ่งทางผู้แจ้งระบุว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้รถโดยไม่ทราบสาเหตุ ต่อมาจึงไปประสานไปที่ พฐ.ลงตรวจเก็บพยานหลักฐาน ซึ่งเบื้องต้นไม่พบข้อที่บ่งชี้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากฝีมือมนุษย์
ต่อมาในส่วนเคสล่า สุดเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุในลักษณะเดียวกัน และในพื้นที่เดียวกัน หลังเพลิงสงบ ก็ได้แจ้ง พฐ. มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งครั้งนี้ ทาง พฐ. แจ้งว่า นิติวิทยาศาสตร์สามารถเชื่อได้ว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ อาจจะมีการกระทำที่มาจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งขณะนี้ก็มีพลเมืองดีพยายามนำข้อมูลหลักฐาน ภาพกล้องวงจรปิดส่งมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยขณะนี้ก็อยู่ระหว่างติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี