"เดชอิศม์" เข้าพรรคสักการะพระแม่ธรณีฯ ถือฤกษ์ก่อนเข้ากระทรวง ปฏิบัติหน้าที่ รมช.สาธารณสุข ลั่นถ้าไม่มีแก้รธน.-ทุจริต "ปชป." ถอนตัวแน่ ยันประชาชน 90 % หนุนร่วมรัฐบาลแก้ปัญหาให้ประชาชน


วันที่ 9 ส.ค. 2567 เมื่อเวลา 11.00 น.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง  รมช.สาธารณสุข ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  พร้อมด้วยน.ส.สุภาพร กำเนิดผล และนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา เข้าสักการะพระแม่ธรณีบีบมวยผมซึ่งเป็นสัญลักษณ์และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำพรรคประชาธิปัตย์ ก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรมช.สาธารณสุข



โดยนายเดชอิศม์ ได้เปิดเผยถึงนโยบายประชาธิปัตย์ที่จะนำไปเป็นนโยบายรัฐบาล ว่าหลักของกระทรวงสาธารณสุขคือการดูแลสุขภาพลานามัยให้กับพี่น้องประชาชน ส่วนนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์คือความพยายามเพิ่มศักยภาพโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) ที่มีอยู่ทั่วประเทศ ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดความแออัดโรงพยาบาลในตัวเมือง ส่วนในรายละเอียดเรื่องกรมต่างๆ ยังไม่ได้มีการหารือกับรัฐมนตรีว่าการก่อน ซึ่งตนก็สนิทกันมาก ทุกเรื่องแม้มอบนโยบายมาแล้วก็ต้องมีการปรึกษาหารือกัน

เมื่อถามว่าการที่นโยบายรัฐบาลไม่มีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเรื่องการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เรื่องนี้มีการพูดคุยในการประชุม ครม. นัดพิเศษที่ผ่านมาแล้ว ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะถ้ามีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น พรรคประชาธิปัตย์จะถอนตัวทันที แต่ถ้าไม่มีเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น รัฐบาลนี้อยู่ครบเทอมแน่

เมื่อถามว่าได้สอบถามถึงแนวทางการเรียกศรัทธาพรรคประชาธิปัตย์ให้กลับคืนมา เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ก่อนที่พรรคจะตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ตนได้ให้ สส. ไปทำการบ้านในพื้นที่มาอย่างละเอียด มีการสอบถามความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชน ตลอดจนแฟนพันธุ์แท้ของพรรค เชื่อว่าเกิน 90% เห็นด้วย แต่เสียงที่ดังมากจะเป็นคนที่ไม่อยู่ในพรรคกับคนที่ไม่เคยเลือกประชาธิปัตย์ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นโน้มน้าวให้คนรังเกียจพรรค

“ไม่มี สส. คนไหนหรอกที่อยากสอบตก เขาอยากชนะการเลือกตั้งทั้งนั้น สิ่งที่เขามาลงมติได้คิดกันอย่างรอบคอบ ตัวผมเองถามประชาชน แต่จะให้ถามทุกคนเป็นไปไม่ได้ ผมถามแกนนำของพรรคในเขตเลือกตั้งของผมพบว่า 100% สนับสนุน เพราะเมื่อมีโอกาสที่จะไปแก้ปัญหาประชาชนได้ แล้วทำไมเราไม่ใช้โอกาสนั้น ดังนั้นการที่ประชาธิปัตย์มาร่วมบริหารประเทศ ก็ต้องมีผลงานให้แตกต่างให้ได้ สร้างความโดดเด่นให้ได้” นายเดชอิศม์ กล่าว



เมื่อถามถึงกรอบในการชี้วัดการทำงานครั้งนี้อย่างไร นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ความจริงแล้วมีการประเมินผลงานของตัวเองทุกเดือนอยู่แล้ว แต่สำหรับภาพรวมอาจมีการประเมินอีกทุก 3-6 เดือน แต่ส่วนตัวไม่รู้สึกกดดัน เพราะถูกปรามาสไว้มาก สมัยเป็นนายกฯ อบจ. สงขลา ก็เคยถูกปรามาสเช่นกัน แต่สุดท้ายคนอื่นๆ ที่เคยอยู่ในตำแหน่งนี้ก็ติดคุกไปหลายคน ยกเว้นตนคนเดียว