เด็กชาย 14 ปี คึกคะนองล้อเพื่อนอีกฝ่ายโมโหราดน้ำมันจุดไฟเผา โชคดีแค่บาดเจ็บ สุดท้ายยอมขอโทษสำนึกผิด พ่อแม่ คนเจ็บ แจ้งความไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่เรียกร้องเอาผิด รอเจราจาพูดคุย หลังลูกชายหายเจ็บป่วย ฝากเตือนลูกหลานเยาวชน อย่าคึกคะนองเกิดเหตุ พลาดอาจถึงชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีน้องนะโม อายุ 12 ปี ชาวบ้านห้อม ต.อาจสามารถ อ.เมือง จ.นครพนม ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากเพื่อนรุ่นพี่ คือ นายปาล์มมี่ อายุ 14 ปี ก่อเหตุใช้น้ำมันราด จุดไฟเผา ไหม้เสื้อผ้า บาดเจ็บถูกไฟลวก บริเวณหน้าท้อง ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังรักษาอาการแผลติดเชื้อ และยังมีไข้จากผลข้างเคียง โชคดีที่ปริมาณน้ำมันน้อย หากน้ำมันใช้ราดปริมาณมาก อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้

โดยผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริง จุดเกิดเหตุ บริเวณบ้านพักแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านนาโสก ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม อยู่ห่างจากบ้านคนเจ็บประมาณ 4-5 กิโลเมตร สอบถาม  นายสุริยนต์ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ปกติ น้องนะโม อายุ 12 ปี คนได้รับบาดเจ็บเป็นเพื่อนของ ลูกชาย ปกติจะชอบจับกลุ่มมาเล่นตกปลา รวมถึงจับกลุ่มหยอกล้อเล่นกันตามประสาเด็ก ประมาณ 4-5 คน มีเพื่อนรุ่นพี่ด้วย แต่วันเกิดเหตุ น้องนะโม อายุ 12 คนเจ็บ ได้มีการหยอกล้อ กับคนก่อเหตุ คือ นายปาล์มมี่ อายุ 14 ปี เพื่อนรุ่นพี่ แต่มีการพูดจาหยอกล้อกันแรง และมีการล้อชื่อพ่อแม่กันไปมา ทำให้ คนก่อเหตุไม่พอใจ และโมโหกันตามประสาเด็ก ด้วยความคึกคะนอง จึงเดินไปเอาขวดน้ำดูดน้ำมันเบนซินจากรถจักรยานยนต์ ที่จอดไว้ นำมาสาดใส่ตัว คนเจ็บ และจุดไฟแช็ค จนเกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว โดยในที่เกิดเหตุยังพบหลักฐานเสื้อผ้า คนเจ็บ ที่มีรอยไฟไหม้เกรียมถอดทิ้งไว้  

หลังมีไฟลุกไหม้ตามเสื้อผ้า ทำให้ น้องนะโม อายุ 12 ปี คนเจ็บ กระโดดลงสระน้ำ เอาชีวิตรอด พอไฟดับ ได้คลานขึ้นมาจากสระน้ำ พร้อมร้องโอดโอยด้วยความเจ็บแผลไฟไหม้ จากนั้น เพื่อนอีก 2 คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมถึงคนไปก่อเหตุ ได้ไปแจ้งเจ้าของบ้าน คือนาย สุริยนต์ อายุ 44 ปี พ่อของน้องนนท์ อายุ 12 ปี เพื่อนในกลุ่มเดียวกัน จึงช่วยกันนำคนเจ็บส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพนม ส่วนคนก่อเหตุ ยังได้เข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บ และกล่าวคำขอโทษ ยอมสำนึกผิด ทำไปด้วยความโมโห และคึกคะนอง

สอบถาม นายสนั่น  อายุ 56 ปี พ่อคนเจ็บ ที่คอยเฝ้าดูอาการของลูกชาย ที่โรงพยาบาลนครพนม เปิดเผยว่าตน มีอาชีพหาปลาน้ำโขง มีลูกชายเพียงคนเดียว เรียนหนังสืออยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนเอกชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม ปกติจะไปเล่นกับเพื่อนรุ่นพี่คนก่อเหตุประจำ ไม่คิดว่าเพื่อนจะเล่นรุนแรงถึงขนาดนี้ หลังเกิดเหตุตนได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน ไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ยังไม่มีการเจรจา ตกลงเกี่ยวกับการชดเชยเยียวยา รอให้ลูกชายหายป่วย  ยังสับสนไม่รู้จะทำอย่างไร เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เล่นด้วยกันตลอด สุดท้ายทะเลาะกันก่อเหตุรุนแรงตามประสาเด็ก