วันที่ 8 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ระบุจะเรียกรัฐมนตรีพูดคุยเป็นรายกระทรวงทุกสัปดาห์เพื่อทำงานกันอย่างใกล้ชิดนั้น โดยนายกฯ ได้กล่าวช่วงท้ายการประชุมครม.นัดพิเศษกับรัฐมนตรีว่า ช่วงครึ่งเช้าของวันศุกร์ จะเปิดโอกาสให้รัฐมนตรีเข้ามาพูดคุยหารืออย่างเป็นกันเอง เพราะอยากให้เกิดความใกล้ชิดเนื่องจากช่วงเวลาทำงานที่เหลืออีก 3 ปี ถือเป็นงานที่ท้าทาย ใครมีอะไรก็มาคุยกัน หากรัฐมนตรีคนไหนถูกเรียกตัวให้เข้ามาคุยก็อย่ากังวล เพราะเป็นเรื่องของการติดตามงาน หากมีอะไรก็ขอให้เข้ามาได้เลย ส่วนนโยบายอะไรที่ดีในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ก็ขอให้ดำเนินการต่อไป 

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า หลังจากนายกฯ เป็นประธานประชุมครม.นัดพิเศษเพื่อเตรียมแถลงนโยบายครม.ต่อรัฐสภาฯ วันที่ 12-13 ก.ย.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะมีการประชุมครม.นัดแรกอย่างเป็นทางการวันที่ 17 ก.ย. ซึ่งการประชุมวันดังกล่าว นอกจากจะมีวาระสำคัญแต่งตั้งข้าราชการการเมืองแล้ว จะมีการพิจารณาการแบ่งงานให้รองนายกฯทั้ง 6 คน 

 

โดยเบื้องต้นในส่วนของรองนายกฯจากพรรคร่วมรัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีระกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.)และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) จะยังคงเหมือนเดิม จะมีการสลับสับเปลี่ยนเฉพาะรองนายกฯจากพรรคเพื่อไทย(พท.) เบื้องต้น นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม จะรับผิดชอบดูแลงานความมั่นคง ทหารและตำรวจ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) และหน่วยงานด้านความมั่นคงอื่นๆ 

 

สำหรับคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) นายกฯจะกำกับดูแล ซึ่งนายกฯจะเป็นประธานโดยตำแหน่ง ส่วนคณะกรรมการนโยบายตํารวจแห่งชาติ(ก.ต.ช.) นายกฯจะมอบหมายให้ นายภูมิธรรม กับกับดูแล 

 

ขณะที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง ซึ่งจะกำกับดูแลอย่างกระทรวงการคลัง กระทรงพาณิชย์แล้ว ยังจะได้รับมอบหมายกำกับดูแล กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้นายภูมิธรรม กำกับดูแล ส่วนของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม ยังคงกำกับดูแลเหมือนเดิมเป็นส่วนใหญ่ แต่อาจจะมีการแบ่งหน่วยงานให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กำกับดูแล