ราชบุรี กู้ภัยช่วยหนุ่มหลอนเพราะดมทินเนอร์ผสมเหล้าเตรียมจะกระโดดสะพาน
             

เมื่อเวลา 18.40 น.วันที่ 7 ก.ย.67 เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์วิทยุ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี ได้รับแจ้งว่ามีผู้ชายจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำแม่กลอง บริเวณวัดไทร  ม.1 ต.คลองตาคต อ.โพธาราม หลังรับแจ้งจึงวิทยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบ พร้อมอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี ในที่เกิดเหตุเป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่สร้างใหม่ ยังไม่เปิดให้ใช้งาน พบชายอายุประมาณ 40-45ปี  ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ เดินไปเดินมาอยู่บนสะพาน ในมือถือขวดเหล้าสีน้ำตาล บางจังหวะก็ขึ้นไปนั่งบนราวสะพาน และห้อยตัวลงไป ซึ่งเป็นภาพที่น่าหวาดเสียวกับประชาชนที่สัญจรไปมา ซึ่งสะพานนั้นมีความสูงจากพื้นดินประมาณ10เมตร เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าไปพูดคุย แต่ชายคนดังกล่าวก็ด่าทอกู้ภัย และเหมือนว่าจะหวาดกลัวชุดกู้ภัย ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงจำเป็นต้องถอดเสื้อกู้ภัยออก เพื่อจะเข้าไปเจรจาพูดคุยแต่ก็ยังไม่เป็นผล   
       

จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง  เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้พยายามพูดเจรจาหลอกล่อให้ชายคนดังกล่าวอารมณ์เย็นขึ้น และหลอกให้ชายคนดังกล่าวนั้นเดินตามมายังเชิงสะพานฝั่งทางด้าน ม.1 ต.ท่าชุมพล ได้สำเร็จแต่ก็ยังไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าใกล้  จนมีช่วงจังหวะที่ชายคนดังกล่าวนั้นทำท่าเหมือนจะนั่งลงกับพื้น  เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยกับชาวบ้านจึงได้กรูกันเข้าไปชาร์จตัว  แต่ช่วงจังหวะที่เข้าไปชาร์จนั้นชายคนดังกล่าวได้สะบัดขวดทินเนอร์ใส่เจ้าหน้าที่จนมีอาการแสบร้อนจึงต้องรีบไปล้างตัว และชายคนดังกล่าวก็ยังพยายามทั้งถีบและเตะเจ้าหน้าที่กับชาวบ้านที่เข้ามาชาร์จตัว  แต่สุดท้ายก็สามารถควบคุมตัวส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.โพธาราม  เบื้องต้นทราบว่าเป็นชาวอ.บ้านโป่ง  แต่ยังไม่ทราบเหตุผลที่จะมากระโดดสะพาน  แต่เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดอาการหลอนจากการสูดดมทินเนอร์ผสมเหล้าขาว
     

จากการสอบถามนายไปอู อาสาสมัครใหม่จุดหน่อไม้ ของหน่วยกู้ภัยสว่างราชบุรี ก็เล่าให้ฟังว่า ได้รับแจ้งว่ามีคนกำลังจะฆ่าตัวตายบริเวณริมเขื่อนจึงได้รีบเข้ามาดู  และก็เห็นคนกำลังจะฆ่าตัวตายจึงได้พยายามเข้าเจรจาเพื่อจะนำเขาลงมาข้างล่าง ซึ่งตอนที่เจอตอนแรกนั้นอยู่ตรงกลางสะพานและพอจะเข้าใกล้เขาก็จะกระโดด  จึงพยายามเดินตามล่อให้เขาลงมา  ซึ่งช่วงนั้นเขาก็ห้อยตัวลงที่บริเวณราวสะพาน  แล้วก็ดันตัวเองขึ้นมาเองเพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีใครเข้าใกล้ได้เลย  ซึ่งหากเจ้าหน้าที่เข้าไปใกล้เขาอาจจะปล่อยมือตกลงไปซึ่งบริเวณนั้นเป็นดินแข็ง  ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงในการเกลี้ยกล่อม  ซึ่งคาดว่าเขาน่าจะดมทินเนอร์ซึ่งผสมเหล้าเข้าไปด้วย ส่วนตอนจะเข้าชาร์จตอนนั้นกำลังลังเลอยู่ แต่จู่ๆก็ไม่รู้ว่าเป็นใครผลักผมเข้าไป ซึ่งจังหวะนั้นไหนๆก็ไหนๆผมจึงเข้าชาร์จเลยตอนที่เข้าถึงตัวชายคนนั้นไม่กลัว แต่เจ็บตัวเพราะเขาเตะผมมาทีหนึ่งและถูกทินเนอร์สาดเข้าที่ตัวด้วย