หลายหน่วยงานรุดตรวจสอบแรงงานต่างด้าว หลังพบเข้ามาในพื้นที่ขอนแก่นหลายร้อยคน เบื้องต้นยังคงไม่พบความผิดปกติ 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 7 ก.ย. 2567 พ.ต.อ.สรายุทธ ก้านคำ ผกก.สภ.บ้านแฮด พร้อมด้วย นายปิตานนท์ ปัญญา นายอำเภอบ้านแฮด และ พ.ต.ท.โสรัจ วิชยสุทธิ์ สวญ.ตม.จว.ขอนแก่น นำกำลังเจ้าหน้าที่ พมจ.ขอนแก่น ,เจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัด,สาธารณสุขจังหวัด , ตม.ขอนแก่น,ชุดสืบสวน สภ.บ้านแฮด และฝ่ายปกครอง อ.บ้านแฮด ร่วมกันเข้าตรวจสอบ และตรวจค้นภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในพื้นที่บ้านโนนกล้วยหอม ต.บ้านแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น หลังมีรายงานว่าแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมาร์ จำนวน 98 คน เข้ามาทำงานในพื้นที่

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้เข้าทำการตรวจค้น บ้านเช่าไม่มีเลขที่ ในพื้นที่ บ.หนองไฮ ม.4 ต.บ้านแฮด อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น พบแรงงานต่างด้าวอีก จำนวน 52 ราย จึงนำตัวทั้งหมดมารวมตัวกัน และทำการตรวจพาสปอร์ต และเอกสารเกี่ยวกับการเข้ามาในราชอาณาจักรไทย พบว่าทั้ง 150 คนนั้น มีพาสปอร์ตและใบอนุญาตเข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกต้อง จึงได้ทำการเรียกตรวจสอบรายชื่อที่ปรากฏในพาสปอร์ต ซึ่งทั้งหมดก็ตรงกัน

นางมาลี เพ็งโคตร อายุ 50 ปี ผู้ประสานงาน การเช่าบ้านพักอาศัยให้แรงงานต่างด้าวเป็นที่พักอาศัย กล่าวว่า มีนายหน้าทั้งคนไทยและชาวเมียนมาร์ ติดต่อมาให้หาบ้านเช่าในพื้นที่บ้านโนนกล้วยหอม และบ้านหนองไฮ อ.บ้านแฮดให้ จึงจัดหาได้จำนวน 2 แห่ง เป็นบ้านชุดเดียว ตกลงค่าเช่าที่หลังละ 5,000 บาทต่อเดือน แต่ไม่รู้รายละเอียดและจำนวนของแรงงานที่จะมาพัก เพราะเป็นเรื่องของนายหน้าและทราบเพียงว่าแรงงานที่จะเข้ามาพักในพื้นที่อ.บ้านแฮดนั้น จะมาทำงานในส่วนคัดแยกชิ้นส่วนไก่ ของบริษัทกระจายสินค้ารายใหญ่ในพื้นภาคอีสาน โดยแยกทำงานในพื้นที่ ต.ท่าพระ อ.เมืองขอนแก่น, อ.บ้านไผ่และ อ.บ้านแฮด

ขณะที่นายสมควร พิเนตร อายุ 52 ปี ผญบ.บ.โนนกล้วยหอม กล่าวว่า ได้สังเกตุเห็นคนแปลกหน้าเข้ามาอยู่ในบ้านเช่าทั้ง 2 จุดได้ประมาณ 3 วันแล้ว แต่ไม่มีความผิดปกติ จนกระทั่งกลางดึกที่ผ่านมามีรถบัส 3 คัน นำคนงานเข้ามาพักในบ้านทั้งสองหลังและกระจายไปที่บ้านหนองไฮหลายคน โดยไม่มีคนพูดภาษาอีสานหรือภาษาไทยได้ จึงรายงานไปยังนายอำเภอบ้านแฮด เพื่อเข้าทำการตรวจสอบ เพราะเกรงว่าจะเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาโดยไม่ถูกต้อง กระทั่ง นายอำเภอนำกำลังของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบจนพบแรงงานชาวพม่าทั้งหมด

พ.ต.ท.โสรัจ วิชยสุทธิ์ สวญ.ตม.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ทั้ง 150 รายนั้น ตม.ต้องทำการตรวจอย่างละเอียดว่า บุคคลที่ตรวจพบนั้นชื่อตรงตามพาสปอร์ตหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติ ทั้งยังตรวจสอบในเบื้องต้นทราบว่า ทุกคนเข้ามาในประเทศไทยอย่างถูกต้อง บางคนเคยเข้ามาทำงานในประเทศไทยแล้ว

ด้านนายปิตานนท์ ปัญญา นายอำเภอบ้านแฮด กล่าวว่า มีการเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดเข้ามาในพื้นที่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบความผิดปกติคือ บ้านชั้นเดียว หลังไม่ใหญ่อยู่กัน 40-50คน ทั้งยังพบอีกว่ามีการกระจายออกไปรวมเป็น4จุด ใหญ่ โดยหลังแรกประมาณ40คน ถัดไปอีกประมาณ100 เมตร พบอีก 58 คนและอีก2จุดอยู่อีกหมู่บ้าน จำนวน 38 คน และ14 คน รวมแล้วประมาณ 150 ราย จึงได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนท.ตำรวจ จัดหางาน ตรวจคนเข้าเมือง สาธารณสุข และพม.เข้าตรวจสอบ

"เบื้องต้น จากการตรวจสอบ ทุกคนมีพาสปอร์ต ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตม.กำลังทำการตรวจสอบว่ามีการเข้ามาตามช่องทางที่ถูกต้องหรือไม่ จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่ากลุ่มแรงงานดังกล่าวมีนายหน้าคนไทย จำนวน 2 ราย เป็นผู้นำพา และมีการเข้ามาทางรอยต่อเมียนมาร์ไทย ทาง จ.ระนอง โดยนั่งรถบัสจ้างเหมาจำนวน 3 คัน มาพักที่กรุงเทพฯ1คืน ก่อนที่จะเดินทางต่อมาที่นี่ เพื่อมาใช้แรงงานในเขตพื้นที่ จ.ขอนแก่น"

นายอำเภอบ้านแฮด กล่าวต่ออีกว่าอย่างน้อยการพักอาศัย ต้องดูเรื่องสุขลักษณะด้วย เพราะการอยู่บ้านพักขนาดเล็กกับจำนวนคนที่อยู่ 40-50 คน คงไม่เป็นไปตามกฏหมาย แต่ถ้าหากเข้ามาถูกต้องจริงๆ ต้องให้ผู้นำพา หาที่พักใหม่ให้ถูกต้องตามสุขลักษณะ แต่ถ้ามาโดยไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่คงต้องดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ส่วนการเคลื่อนย้ายแรงงาน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ตม.แจ้งว่า ต้องมีการแจ้งต่อ ตม.ภายใน 24 ชม.ซึ่งทางผู้นำพาก็แย้งว่ายังไม่ครบกำหนด 24 ชม. อย่างไรก็ตามการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาใช้ เพราะมีบางงานที่คนไทยไม่ทำ จึงจำเป็นต้องใช้แรงงานจากเพื่อนบ้าน ซึ่งการนำเข้ามามีช่องทางทางกฏหมายที่เอื้อให้ผู้ประกอบการนำแรงงานเข้ามา ขอให้ทุกอย่างดำเนินการให้ถูกต้อง