วันที่ 7 ก.ย.67 นายวีระพงศ์ รัตนศรี นายอำเภอปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ก.ย.2567 เวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอปางมะผ้า ร่วมกับ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.7 ปางมะผ้า , เจ้าหน้าที่ทหารร้อย ร.172 , เจ้าหน้าที่ ตชด.ร้อย 336 ,เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนสถานีตำรวจภูธรปางมะผ้า , เจ้าหน้าที่สายตรวจป้องกันและปราบปรามที่ 2 อำเภอปางมะผ้า , เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย , ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้แม่ฮ่องสอน และสำนักจัดการทรัพยากรป้าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ร่วมบูรณาการออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ปายฝั่งขวา ท้องที่บ้าน ปางคาม หมู่ที่ 2 ต.ปางมะผ้า อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน
เมื่อคณะของเจ้าหน้าที่ไปถึงสถานที่เกิดเหตุการณ์ลักลอบบุกรุกป่า บริเวณป่าด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของบ้านปางคาม หมู่ที่ 2 ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ปายฝั่งขวา คณะเจ้าเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ตรวจพบพื้นที่ถูกบุกรุกแผ้วถาง เนื้อที่จำนวน 1 ไร่ 1 งาน 79 ตารางวา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบ ชายหญิงจำนวน 2 คน กำลังปลูกถั่วแดงอยู่ในพื้นที่ที่มีการบุกรุกแผ้วถางป่าจึงเข้าทำการควบคุมตัวไว้ ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนางทร ไม่มีชื่อสกุล อายุ 60 ปี และนายกอหลิง ไม่มีชื่อสกุล อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมา อาศัยอยู่ในหมู่บ้านปางคาม จากการสอบถามนางทร ไม่มีชื่อสกุล ได้ให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ว่าตนและนายกอหลิง ไม่มีชื่อสกุล ข้ามฝั่งมาจากกิ่วหน่อ รัฐฉาน สหภาพเมียนมา รัฐพม่าเข้ามาเพื่อทำการปลูกถั่วแดงในพื้นที่ดังกล่าวจริง จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปางมะผ้า เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับพื้นที่ป่าที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึด จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่า มีการตัดโค่นต้นไม้ และมีการเจาะลำต้นไม้เพื่อหยอดยา และการกานบริเวณโคนต้นเพื่อหวังให้ต้นไม้ยืนต้นตาย ก่อนที่จะทำการตัดโค่นในปีต่อไปทั้งนี้ พื้นที่ป่าในอำเภอปางมะผ้า ในห้วง 10 ปีที่ผ่านมามีการลักลอบบุกรุกป่าเป็นจำนวนมากทั้งพื้นที่ป่าสงวนและป่าอุทยาน นับพัน ๆ ไร่ เพื่อปลูกข้าวโพด โดยเฉพาะป่าต้นน้ำได้มีการบุกรุกมากที่สุด คาดว่าในอนาคตอันใกล้ จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้น้ำในลำน้ำและลำห้วยสายต่าง ๆ ปริมาณน้ำเริ่มลดน้อยลงอย่างน่าใจหาย เมื่อเกิดฝนตกหนักก็ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากอย่างรุนแรงและพัดทำลายบ้านเรือนราษฎร พื้นที่การเกษตรจนเสียหายย่อยยับ