วันที่ 6 ก.ย.2567 เวลา 18.50 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังจากเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ว่าในการทำงานของกระทรวงพาณิชย์จะเร่งรัดการทำงานในหลายเรื่องที่เป็นปัญหากระทบกับประชาชน เรื่องแรกคือการแก้ปัญหาสินค้าราคาแพงโดยต้องไปดูในเรื่องของต้นทุนสินค้าว่า สินค้านั้นมีต้นทุนสินค้าที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าไม่เหมาะสมต้องเรียกผู้ประกอบการมาคุยกันว่าจะลดราคาสินค้าลงอย่างไรเพื่อให้ประชาชนไม่เดือดร้อน เรื่องต่อมาคือเรื่องของสินค้าจีน ซึ่งทะลักเข้ามาในประเทศไทยมาก ต้องดูว่าเรื่องนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร ตอนนี้มีหลายมาตรการที่ออกมาแล้ว ต้องมาดูว่ามาตรการที่ออกมาแล้วสามารถแก้ไขได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ต้องออกมาตรการเพิ่มและจะออกมาตรการอย่างไร
นายพิชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ในเรื่องต่างประเทศต้องเร่งเรื่องของการเจรจาความตกลงเขตเสรีการค้ากับต่างประเทศ (FTA) ซึ่งถ้าประเทศไทยมีข้อตกลง FTA มากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะทำให้เรามีการลงทุนเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น ส่วนในการลงทุนของต่างประเทศที่เป็นโอกาสของไทยก็ต้องมีการเร่งรัดให้มีการค้าและการลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์หรือ “PCB” (Print Circuit Board) ซึ่งเป็นส่วนประกอบพื้นฐานที่สำคัญของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งถือว่าเป็นธุรกิจที่มีการลงทุนอย่างมากและจะเป็นการเติบโตที่เป็นนิวเอสเคิร์ฟใหม่ของประเทศไทย โดยปีที่ผ่านมามีการลงทุนกว่า 1.5 แสนล้านบาท และหากมีการส่งเสริมที่ดีจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นล้านล้านบาทได้เลยเนื่องจากมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องเป็นคลัสเตอร์ที่จะมีการลงทุนเข้ามาต่อเนื่อง ซึ่งการลงทุนใหม่ๆนี้จะช่วยเปลี่ยนโครงสร้างการส่งออกของประเทศไทยได้ในอนาคต
รมว.พาณิชย์ ระบุว่า สินค้าเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการส่งออกที่เป็นสินค้าใหม่ๆที่มีมูลค่าสูง การจ้างงานก็จะดีขึ้นและค่าแรงของคนไทยก็จะดีขึ้น เพราะอุตสาหกรรมเหล่านี้จ้างงานได้กว่า 40,000 บาทต่อเดือน หรือถ้าเป็นวิศวะกรในสาขานี้ก็สามารถที่จะมีเงินเดือนเป็นแสนๆบาทได้เลย