กรณี “คุณแนน” ขอความเป็นธรรม ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV ก่อนขับลุยน้ำท่วม จนน้ำเข้าแบตพัง ศูนย์แจ้งว่าต้องเปลี่ยนแบตใหม่ทั้งลูก 4 แสน แต่ประกันดองเคลมไม่ยอมเปลี่ยนให้ สร้างความทุกข์ใจให้เธอเป็นอย่างมาก เพราะต้องตามเรื่องเอง ทั้งเสียเวลาชีวิต อีกทั้งไม่มีรถใช้

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 6 ก.ย. 67 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33  สัมภาษณ์ แนน ผู้เสียหาย  มาพร้อม ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล, อดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ ศปภ. , นายพัสกร  ทัพมงคล ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก (สคบ.)

คุณแนนเผยว่า “ส่งเรื่องให้จ่าพิชิต หรือ Drama-addict ตอนนั้นมืดแปดด้าน ปกติติดตามเพจจ่าอยู่แล้ว เลยตัดสินใจลองส่งเรื่องเข้าไปดู มันเหมือนหาข้อสรุปไม่ได้ แต่ละวันไม่ได้หลับไม่ได้นอน เครียดมาก จนเกือบคิดสั้น (ร้องไห้)”

“ตั้งแต่แรก หลังจากรถเกิดอุบัติเหตุ มันก็ขับไม่ได้ จอดนิ่งไปเลย ตอนเกิดเหตุฝนตก รู้สึกว่ามีการกระแทกอะไรบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร ตอนนั้นน้ำท่วมขึ้นมาเกือบฟุตบาธ เป็นเส้นที่เราใกล้ถึงบ้าน เราพยายามขับรถกลับบ้าน พอจอดที่บ้านช่วงบ่ายๆ ขับรถออกไปไม่ถึงกิโล มีสัญลักษณ์ขึ้นมาเป็นรูปเต่า เกี่ยวกับระบบขัดข้อง ส่วนชนวนกันความชื้นมีปัญหา ขึ้นรูปแบตเดือนขึ้นมาอีก จากนั้นพวงมาลัยล็อก รถก็น็อกไปเลย”

“ชนคืนนั้น วันรุ่งขึ้นเป็น ตอนนั้นโทรติดต่อเซอร์วิสศูนย์เรียกรถยกมา ซึ่งเขายกฟรีให้อยู่แล้ว ก็เลือกไปศูนย์ที่ใกล้ที่สุด เราซื้อจากศูนย์รังสิต พอเรียกรถเขาก็ยกไปศูนย์ใกล้บ้านคือมีนบุรี เนื่องจากเป็นวันหยุด เขาจอดรถเราค้างไว้หนึ่งคืน วันจันทร์พยายามติดต่อทางศูนย์ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เบื้องต้นเขาแจ้งว่ามีรูใต้ท้องรถ ทางศูนย์แจ้งว่าไม่สามารถซ่อมได้ เนื่องจากเขาไม่มีเซอร์วิสตรงส่วนซ่อม 4 ตัวถัง เขาก็แจ้งให้เราโยกย้ายไปศูนย์อื่นที่ซัปพอร์ต ทีนี้ก็เลยมีการติดต่อประสานงานไปทางเนต้าไทยแลนด์ เพื่อให้โยกย้ายรถไปศูนย์ที่สามารถจัดการตรงนี้ได้ สรุปไปศูนย์บางนา ทางเนต้าแจ้งว่า ศูนย์บางนาเป็นแบตเตอรี่เซ็นเตอร์ สามารถดูแลซ่อมแซมตรงนี้ได้”

“แต่พอไปศูนย์บางนา เรารอการติดต่อประมาณ 2 วัน เขานัดประกันไปเขียนใบเคลมที่นั่น เป็นประกันของโตเกียวมารีน หลังจากที่เจอเจ้าหน้าที่โตเกียวมารีน เขียนใบเคลมให้ ประกันจะเกริ่นก่อนว่าประกันไม่ได้โคฟเวอร์แบตนะ ก็ค่อนข้างกังวล หลังได้ใบเคลมก็ติดต่อศูนย์บางนาต่อว่าใบเคลมมาแล้วนะ คุณสามารถแกะมาเช็กให้เราได้มั้ย ว่าสภาพแบตดเราเป็นยังไง เพราะเราเป็นห่วงรถของเรา เราอยากได้รถกลับมาใช้ไวๆ หลังเขาแกะและถ่ายรูปให้ดู มันมีน้ำค่อนข้างเยอะ เลยสอบถามทางศูนย์เบื้องต้นว่าเป่าให้แห้งได้มั้ย เพราะดูรีวิวคนน้ำท่วมแบต เขาเป่าให้แห้งแล้วเอามาใช้ชั่วคราวก่อนประกันจะอนุมัติ ศูนย์ก็ขอตรวจสอบก่อน ก่อนโทรมาแจ้งว่าไม่สามารถซ่อมได้ ต้องเปลี่ยนแบตยกลูกเท่านั้น”

“เขาบอกว่าน้ำเข้าไปเยอะมากๆ แล้ว แล้วแช่หลายวันแล้ว ไม่รู้จะมีส่วนไหนมีปัญหาอีกมั้ย หลังเปลี่ยนแบตก็ต้องเช็กเพิ่มอีก เราก็โอเครับทราบ รอว่าเขาจะยื่นเรื่องประกันยังไง แล้วเพิ่งมารู้ว่าทางศูนย์บางนาไม่ได้รับเรื่องเคลมประกัน เขาต้องส่งเรื่องให้ทางศูนย์ชลบุรี เพื่อให้ชลบุรีทำเรื่องส่งเคลมประกันอีกที รถอยู่นางนา แต่เอกสารส่งไปชลบุรี จากนั้นมีการรอข้อมูลว่าจะอย่างไร ก็มีการโทรมาบ้างว่าจะมีการคืนทุน หรือยกแบตเนื่องจากราคาซ่อมแบต จากทางประกันแจ้งมา เขาบอกราคาซ่อม ยกเปลี่ยนแบต มันเกินกว่ายอดที่เขาจะให้ได้ เขาแจ้งว่าเกิน 70 เปอร์เซ็นต์จากค่าซ่อมที่เขาต้องให้”

“ประกันแถมมากับรถ เป็นประกันชั้น 1 วงเงินซ่อมแซม 610,000 บาท ซื้อรถมา 549,000 บาท รัฐช่วยจ่ายไปแล้วส่วนหนึ่ง ถ้ารัฐไม่ช่วยจ่าย รถคันนี้น่าจะเกือบ 7 แสน ส่วนศูนย์ที่เอาไปซ่อม เขาคิดยอด 434,617.46 บาท ซึ่งประกันโทรมาแจ้งว่าถ้ายอดซ่อมขนาดนี้ แนะนำให้คืนทุน (หมายถึงเอารถคืน ประกันปิดไฟแนนซ์ให้ ส่วนต่างเท่าไหร่ก็ให้คุณแนนเอาไป) ซึ่งถือว่าเขาหาทางออกให้ดี จากนั้นก็เริ่มทำเรื่องเลยว่าต้องติดต่อประสานใครบ้าง แนนไปติดต่อไฟแนนซ์เบื้องต้นให้เขาหยุดดอกเบี้ย จนถึงกระบวนการยื่นเอกสาร เอาทะเบียนป้ายขาวให้ไฟแนนซ์เรียบร้อยในวันที่ 30 ส.ค. วันเดียวกัน”

“หลังจากเอาป้ายทะเบียนคืนไฟแนนซ์ไม่ถึง 2 ชม. ทางประกันแจ้งกลับมาว่า แบตสามารถซ่อมได้ โดยทางศูนย์แจ้งว่าซ่อมได้ บอกว่าไม่เปลี่ยนแบตและไม่คืนทุนแล้ว แนนยื่นเอกสารครบถ้วน ประกันเองก็ส่งเอกสารมาให้อ่านว่าต้องดำเนินการอย่างไรต่อ ตอนแรกเขาเสนอให้คืนทุนเอง แต่พอถึงเวลาเขาบอกว่าไม่เอาแล้ว โดยแจ้งว่าทางศูนย์บอกว่าสามารถซ่อมได้ ยอมรับว่างง จากนั้นเราไปสอบถามที่ศูนย์บางนา เขาตอบกลับมาว่าเขาซ่อมไม่ได้ ไม่เคยบอกเลยว่าซ่อมได้ ศูนย์เล่าว่าทางประกันมีการไปถ่ายคลิป สอบถามว่าที่นี่ซ่อมแบตได้มั้ย ทางศูนย์บอกว่าเราเป็นแบตเตอรี่เซ็นเตอร์ ซ่อมแบตได้ แต่ศูนย์ไม่ได้บอกว่าซ่อมคันนี้ได้”

“จากวันนั้นนอนไม่หลับทั้งคืนเลย ทางประกันบอกว่ารอเอกสารยืนยันจากเนต้าเพื่อทำการเร่งซ่อม หรือยืนยันว่าซ่อมไม่ได้ แต่ไม่ได้บอกจะทำอะไรต่อ เราก็เริ่มวิ่งเรื่องว่าเอกสารที่เขาต้องการ ต้องไปเอาที่ใคร เบื้องต้นคุยกับบางนา บางนาบอกว่าส่งเอกสารไปชลบุรีแล้ว แต่ชลบุรีต้องทำเอกสารส่งให้ประกัน แต่พอคุยกับประกัน ประกันบอกว่าต้องมีเอกสารยืนยันว่าซ่อมไม่ได้จากเนต้าไทยแลนด์เท่านั้น ส่วนประกันภัยไปที่ศูนย์บางนา ให้ช่างยกแบตมาตากแดด เป็นแมสเสจจากศูนย์แจ้งมา แล้วค่อยตรวจสอบอีกที แนนก็ประสานไปทางประกันหลายครั้ง เขาตอบกลับมาอย่างเดียวว่าต้องรอจากเนต้า”

เราก็โดนประกันบ่นนิดหน่อย ด้วยความที่เราตามเรื่องเองหมด ตามศูนย์แล้วตามประกันต่อ เราอาจตามเยอะไป ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายสินไหม เขาก็สบถมาว่า “เฮ้ย ให้เวลาทำงานบ้างดิ” หลังจากนั้นเลยไม่ค่อยกล้า”

ขณะที่ “ทนายแก้ว” เผยว่า “กรณีนี้แปลก เพราะเขาสรุปไปแล้วว่าจะมีการคืนทุนประกัน อยู่ดีๆ มากลับคำ สงสัยว่าวันเอารถไปที่มีนบุรี เจ้าหน้าที่ทำไมไม่ถอดแผ่นแบตออกมาเพื่อบรรเทาความเสียหายจนไปถึงบางนา เวลาก็นานไป น้ำก็ยิ่งเข้าไปเยอะขึ้น ศูนย์ที่มีนบุรีไม่ทำอะไรเลยเหรอ แนนก็เผยว่าเขาแจ้งว่าไม่สามารถซ่อมได้ ต้องโยกย้ายศูนย์”

“อดิศร พิพัฒน์วรพงศ์” รองเลขาธิการด้านกฎหมายและตรวจสอบ ศปภ. ได้เผยว่า “โดยปกติแบตเปียกน้ำต้องทำให้แห้งก่อน แล้วเทส ทดสอบว่าแบตโมดูลเสียกี่โมดูล หรือเสียทั้งแผ่น แล้วจัดการดำเนินการเปลี่ยนเป็นโมดูลหรือเปลี่ยนทั้งแผ่น เข้าใจว่ากระบวนการทำให้แห้ง ยังไม่เคยเกิดขึ้นเลย ก็เลยมีปัญหา ถ้าบอกว่าเทสจริงๆ ไปถึงมีการประเมิน ถ้าเปียกเสียหายทั้งแพ็ก คำนวณมาเท่านี้ คิดเป็นเงินในระบบประกันภัย ถ้าความเสียหายเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ผู้เอาประกันมีสิทธิ์เลือกรับทุน ก็จะมีเอกสารประกอบการยื่นขอคืนทุนประกัน เชื่อว่าใบที่ขาดไปคือใบรับรอง ว่าพังเท่าไหร่ หรือพังทั้งหมด ถ้าเขายืนยันเอกสารก็สมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์”

แนนร้องไห้ บอกว่า “ตอนนี้ลำบากในการเดินทาง ต้องลางานบ่อยๆ เพื่อวิ่งเรื่องเอง เพราะไม่มีใครซัปพอร์ต ต้องวิ่งเรื่องเองทั้งหมด เจ้าหน้าที่โยนไปโยนมา เราก็อยากให้เรื่องจบไวๆ เราก็ไปเอง ถามว่าโทรบ่อยมั้ยเขาถึงพูดคำนั้น ก็น่าจะบ่อย โทรค่อนข้างทุกวัน มันก็เหนื่อยค่ะ”

คุณอดิศร เผยว่า “ถ้าเอกสารครบถ้วน แล้วไม่มีการดำเนินการที่เหมาะสม เราจะดำเนินการกับบริษัทแน่นอน ถ้าผู้ร้องติดต่อเรา เราจะมีกระบวนการติดตาม ส่วนเคลมให้เนต้ากับประกันลองให้ข้อมูลก่อน แต่พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพนักงานเป็นเรื่องสำคัญ เพราะธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ต้องให้บริการประชาชน เดี๋ยวคงประสานงานกับบริษัทให้สอบสวนเรื่องนี้ เรื่องแบตก็ต้องมีการยืนยันว่าอันตรายมั้ย หลายที่เคลมว่ากันน้ำได้ แต่กันได้นานแค่ไหน ข้อเท็จจริงต้องดูเป็นรายกรณี”

โฟนอินหา “คุณปรารถนา คุณสมบัติ” ผู้จัดการแผนกลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท NETA ออโต้ ประเทศไทย เผยว่า “ไม่เหนื่อยใจ เพราะยินดีและพร้อมดูแลลูกค้าทุกท่านอยู่แล้ว เคสนี้รับทราบตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อยู่ในกระบวนการขั้นตอน ซึ่งเนต้าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องหรือแทรกแซงเพราะเป็นกระบวนการของประกัน ซึ่งคอนเฟิร์มปัญหา ระหว่างแบตเตอรี่เซ็นเตอร์กับทางประกัน เนตามอนิเตอร์อยู่ห่างๆ ดูแลและควบคุม ถ้าศูนย์บริการต้องการความช่วยเหลืออะไรด้านเทคนิค ทางเนต้าออโต้ยินดีให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว”

“ถามว่าตกลงต้องซ่อมหรือเปลี่ยนแบต จากการตรวจสอบจากช่างผู้ชำนาญงานแล้ว และเราพิจารณาดู 3 ส่วน การลัดวงจรของแบตเตอรี่ มีความชื้นสะสม นำไปสู่ความเสียหายถาวรได้ สองเราคอนเซิร์นความปลอดภัยของลูกค้าด้วย สรุปแล้วศูนย์แนะนำให้เปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งหมด ตัวเงินทั้งหมด ประมาณ 430,000 บาท เป็นราคามาตรฐาน ตอนนี้รถรุ่นนี้ราคาอยู่ที่ประมาณ 4.9 แสน ทางเนต้า ไทยแลนด์ ปรับราคาลดลงตามกลไกตลาด อันนี้เป็นราคาที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลแล้ว”

“ถามว่าประกันจะสับสนมั้ย ตอนคุยกับบริษัทประกัน เราคุยกันในส่วนราคาขายปลีกที่แท้จริง ก่อนได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐบาล ถามว่ารถ 4.9 แสน ทำประกันโคฟเวอร์ที่ 3 แสนกว่าบาท ก็ไม่ถึงราคาแบต แล้วจะทำอย่างไร ต้องขออนุญาตให้เป็นหน้าที่บริษัทประกันตอบจะดีกว่า ศูนย์ได้แจ้งประกันเรียบร้อยว่าต้องเปลี่ยนแบต เท่าที่เราได้รับรายงาน วันที่ 29 ส.ค. เราเพิ่งได้รับคอนแท็กจากศูนย์บริการว่าขอเอกสาร ขอรูปเพิ่มเติมในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่เราคอนเฟิร์มไปตั้งนานแล้วค่ะ เพียงแต่ประกันก็เงียบหายไป มาคอนเน็กกับเราอีกทีวันที่ 29 เราก็ส่งเอกสารไปตามที่ประกันขอร้องมา”

 “การเอาแบตไปตากแดด ถามว่าช่วยมั้ย กรณีแบตเตอรี่ได้รับความเสียหาย ถูกน้ำเข้า จะมีผลคือหนึ่งลัดวงจร สองความชื้นเข้าไป สองความเสี่ยงต่อลูกค้าด้านความปลอดภัย ฉะนั้นการเอาแบตเตอรี่ไปตากหรือเป่าให้แห้ง ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ในมุมเนต้าต้องเปลี่ยนเท่านั้น ยืนยันค่ะ”

คุณแนนกังวลใจว่า “แบตรถคันนี้ถูกประกอบกลับเข้าไปที่รถนานแล้ว หลายอาทิตย์แล้ว ทำไมต้องเอากลับเข้าไป มันถูกแช่น้ำแล้วเอากลับไปแบบนั้น ไม่น่าใช้ได้แล้วหรือไม่ ก็รู้สึกไม่สบายใจ” ทางคุณปรารถนาบอกว่ามันอาจเป็นไปได้ ที่จะส่งผลกระทบต่อวงจรควบคุมอื่นๆ อีก ต้องกลับไปเช็กอีกที ราคาที่เสนอไปยังไม่รวมระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นระบบไฟฟ้า ตรงนี้ยังไม่ได้คอนเฟิร์ม

ทนายแก้วถามว่าทำไมต้องประกอบกลับเข้าไป ทั้งที่รู้ว่าจะกระทบกับส่วนอื่นๆ คุณปรารถนาเผยว่า เป็นกระบวนการของศูนย์บริการ ประกอบกลับเข้าไป แต่ไม่ได้ทำอะไรต่อ ไม่ได้ซ่อม รอประกันอนุมัติ เพราะคอนเฟิร์มแล้วว่าเปลี่ยนแบตเตอรี่

ด้าน คุณพัสกร สคบ. ฝากเนต้าและผู้ประกอบธุรกิจอื่นๆ กรณีรถลูกค้านำมาเคลมประกัน บริษัทเป็นผู้ประกอบธุรกิจ เป็นผู้ผลิต ย่อมรู้จักสินค้าตนเองเป็นอย่างดี อะไรที่ลดความเสียหายได้ ต้องแก้ไขอย่างไร ถึงจะปลอดภัยที่สุดก็ต้องตามผู้ผลิตเขา ซึ่งตอนนี้มีปัญหาแล้ว ราคารถใหม่กับราคาแบตเท่ากัน ถ้าแบตเสียไปซื้อรถใหม่มันก็ง่ายกว่า ดังนั้นมันไม่สมดุล แบตราคาเท่ารถยนต์อาจมีปัญหา ฝากพิจารณานิดนึง

คุณอดิศร เผยว่า “สคบ.พูดคือราคารถลดลงมาเยอะมาก น่าจะต้องกลับมาพิจารณาเรื่องอะไหล่ รถยนต์ลดแล้ว อะไหล่ก็ควรลดลงด้วย โดยคุณปรารถนาเผยว่า บริษัทยืนยันว่าที่ลดราคารถเหลือ 4.9 แสน เป็นโปรโมชั่นการขายแค่ช่วงเวลานึงเท่านั้น เพราะต้องแข่งกับเจ้าอื่นๆ ด้วย” ซึ่งแนนเผยว่าการแข่งกันตัดราคา ทำให้ผู้บริโภคก็เจ็บจี๊ดเลย

ต่อมา รายการโฟนอินหา “เชิดชัย ทองกุนยา” ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมทดแทนรถยนต์ บริษัทคุ้มภัยโตเกียวมารีนประกันภัย โดยคุณเชิดชัยเผยว่า “ทราบปัญหาแล้ว ที่มาที่ไป รถคันนี้ก็อย่างที่ทราบ ขับลุยน้ำ ทำให้แบตได้รับความเสียหาย รถคันนี้ยกมาซ่อมบางพลี แต่บางพลีไม่มีเรื่องการเสนอราคา ก็ส่งเรื่องไปชลบุรี เนต้า ชลบุรีก็ประสานไปที่บริษัท รถซ่อมอยู่บางนา เจ้าหน้าที่ดูข้อมูลเรื่องความเสียหายเบื้องต้น ยังไม่ได้ดูข้อมูลรถที่แท้จริง ก็คุยกับประกันภัยว่าความเสียหายประมาณนี้ แบตเตอรี่น่าจะเสีย และน่าจะมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ แจ้งเบื้องต้น ถ้าเปลี่ยนทั้งชุดคงคืนทุน เราก็จ่ายตามทุนประกันภัย 6.1 แสน แจ้งคุณแนนเบื้องต้นไปแล้ว แล้วก็ให้เจ้าหน้าที่ไปดูรถพร้อมช่างที่บางนา เข้ามาดูวันที่ 29-30 ตามที่เนต้าได้ประสานมา วันที่ดู สตาร์ทรถดู ก็สตาร์ทติดปกติ ช่างบอกว่าน้ำอยู่ใต้แบตเตอรี่ เวลาสตาร์ทรถจอดก็วิ่งได้ปกติ แต่ถ้าวิ่งไป แล้วน้ำกระฉอก อาจทำให้รถดับ อันนั้นคือเบื้องต้นที่คุย ทางเนต้าก็ส่งข้อมูลมา เราขอความร่วมมือว่าส่งให้ผู้ชำนาญการของเนต้าดูได้มั้ยว่าต้องเปลี่ยนทั้งหมดหรือซ่อมได้หรือไม่ได้ เพื่อเป็นการยืนยันในการเสนอเรื่องการชดใช้ให้ผู้เอาประกันภัย”

“ทีนี้เรื่องการสื่อสาร ก็ต้องขออภัย และต้องขอโทษคุณแนนด้วย เรื่องเจ้าหน้าที่บริษัท ก็ยอมรับเรื่องความผิดพลาด และการสื่อสารที่ได้แจ้งคุณแนนไป เขาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการที่อยู่ที่สาขาชลบุรี ตรงนี้บริษัทก็ยอมรับ ยินดีรับมาดำเนินการต่อ”

หนุ่ม กรรชัยเผยว่า ฟังสองมุม เหมือนไม่ได้คุยกันทั้งสองฝั่ง ทั้งเนต้าและประกัน เพราะเนต้าบอกว่าบอกแล้วว่าต้องเปลี่ยน ลูกค้าขับไม่ได้ แต่ประกันบอกว่าต้องประเมินก่อนว่าเสียจริงมั้ย คุณเชิดชัยบอกว่าต้องน้อมรับเรื่องความผิดพลาดเรื่องประกันและบริษัทรถ ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ เราก็น้อมรับ และนำมาปรับปรุงเรื่องการดำเนินการต่อ ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ก็น้อมรับความผิดพลาดตรงนี้และจะนำมาปรับปรุง ไม่ให้เกิดความผิดพลาดแบบนี้อีก

ส่วนกระบวนการในการคืนทุน ต้องเรียนว่าเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ดูจากรูปเบื้องต้น ก็ประเมินว่าน่าจะเกิดจากแบตเสียหาย ก็เลยแจ้งเบื้องต้นกับลูกค้าว่าถ้าเสียหายทั้งลูก ก็น่าจะเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ ก็ประสานลูกค้าว่าถ้าเสียหายทั้งลูก ลูกค้าประสงค์จะซ่อมหรือมั้ย เพราะเสียหายเฉพาะแบต และต้องมีเอกสารยืนยันจากเนต้าว่าเสียหายทั้งลูกจริงมั้ย เนื่องจากรถสตาร์ทได้อยู่ แบตเตอรี่ก็สามารถทำได้

คุณอดิศร ถามว่า ได้รับการยืนยันจากเนต้าเมื่อไหร่ว่าแบตต้องเปลี่ยน คุณเชิดชัยก็บอกว่าสภาพแบบนี้ ต้องเปลี่ยน เป็นการยืนยันโดยศูนย์บริการ แต่ไม่ได้มีเอกสารยืนยันชัดเจน ว่าต้องเปลี่ยนจริงๆ พอได้ข้อมูลจากศูนย์บริการแล้ว บริษัทก็ประสานไปที่เนต้าประเทศไทย เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเสียหายจริงหรือไม่จริง

ทนายแก้ว บอกว่า “กระบวนการดูซับซ้อน โตเกียวมารีน เพิ่งประกันรถไฟฟ้าคันแรกหรือเปล่า หรือมีกระบวนการเคยเคลมกันมา ไม่น่าสร้างเงื่อนไขให้ผู้บริโภคมากขนาดนี้” เชิดชัยก็บอกว่า “มีทั้งที่เปลี่ยนทั้งลูก และเปลี่ยนโมดุลด้วย ถามว่าโตเกียวมารีนจะเปลี่ยนให้มั้ย ก็จะทำเรื่องคืนทุนให้ผู้เอาประกันภัย คงไม่เปลี่ยนแล้ว เรื่องคืนทุนเจ้าหน้าที่จะประสานกับคุณแนน หลังจบรายการ และประสานกับทางไฟแนนซ์ให้ทำเรื่องคืนทุน”

แนนเผยว่าตอนนั้นดาวน์รถไป 4.9 หมื่น ผ่อนไป 11 งวด งวดละ 8,049 บาท ก็เท่ากับ 137,539 บาท ค้างอยู่ประมาณ 5.2 แสน เลขกลมๆ เท่ากับจะขาดทุนกับรถคันนี้ประมาณ 4 หมื่นกว่าบาท ให้เรื่องจบก็โอเค

คุณพัสกร สคบ. เผยว่าจริงๆ ผู้ร้องไม่ต้องมาออกรายการ พอเคลมปุ๊บก็ไปศูนย์บริการรถยนต์ ส่งใบเคลม ตรวจสอบสองสามวัน โอเคก็จบ ไม่น่าต้องเป็นหน้าที่ผู้บริโภคไปคุยกับศูนย์และประกัน อันนี้ทำให้ผู้บริโภคมีภาระ โดยหลักไม่ควรเป็นแบบนี้

คุณอดิศร บอกว่า สาระสำคัญคือความรวดเร็วในการยืนยันความเสียหาย เมื่อรถเข้าศูนย์ ก็น่าจะคุยกันว่าศูนย์มีความเห็นชัดเจน ประกันก็ต้องจ่ายชัดเจนเหมือนกัน การจ่ายล่าช้าก็มีโทษตามกฎหมาย อย่างกระบวนการหลายอย่าง ซับซ้อนไป

เชิดชัยเผยว่า “เรื่องการเยียวยาคุณแนน เบื้องต้นขออภัย ขอโทษคุณแนน แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ เรื่องค่าเสียหาย เนื่องจากเงื่อนไขเราจะชดใช้เรื่องมูลค่ารถ เรื่องค่าเยียวยาต้องเรียนตรงๆ ว่าส่วนของตัวกรมธรรม์ไม่สามารถชดใช้ได้ กราบขออภัยคุณแนนอีกครั้ง ที่เกิดความผิดพลาด ทำให้ไม่สบายใจ บริษัทน้อมรับเรื่องความผิดพลาดครั้งนี้ พร้อมปรับปรุงให้ดีขึ้น  เรื่องคืนคุนก็จะดำเนินการเลย เมื่อเช้าประสานคุณแนนไปรอบนึงแล้ว ว่าเราจะพิจารณาชดใช้ให้ หลังจบรายการจะให้เจ้าหน้าที่ประสานเลย”

แนนเผยว่าวันนี้น่าจะเป็นวันที่นอนหลับสนิทที่สุดแล้ว เพราะเครียดมาก อยากฆ่าตัวตาย แต่เห็นหน้าหนุ่ม กรรชัยวันนี้ก็ไม่กล้าแล้ว