เมื่อเวลาประมาณ 23.40 น. วันที่ 5 ก.ย.67 ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร ได้รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้รุนแรงเกิดขึ้นที่บริษัทในตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ประกอบกิจการรับซื้อและผลิตพลาสติก จึงได้รีบรายงานให้นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครทราบ พร้อมกับประสานรถน้ำดับเพลิงจากในจังหวัดสมุทรสาครจากทต.บางหญ้าแพรก,อบจ.สมุทรสาคร,เทศบาลนครสมุทรสาคร,ทต.ท่าจีน,ทต.บางปลา,อบต.บางกระเจ้า,อบต.พันท้ายนรสิงห์,อบต.โคกขาม, อบต.ท่าทราย,อบต.บ้านเกาะ,ทต.สวนหลวง,ทม.คลองมะเดื่อ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใกล้เคียงและรถสนับสนุนรวมกว่า 20 คันเข้าระงับเหตุ ภายใต้การควบคุมสั่งการของ ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเมื่อไปถึงพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้กองยางและกองพลาสติกเก่าอย่างรุนแรงภายในอาคารโกดังด้านในโรงงาน โดยมีทั้งกลุ่มควันกับเปลวเพลิงจำนวนมากพวยพุ่งขึ้นท้องฟ้า ส่งผลทำให้ประชาชนที่อยู่โดยรอบโรงงานหวาดกลัวต่างหนีตาย วิ่งหนีออกจากที่พักอาศัยมาอยู่ด้านนอก
ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ที่เกิดเหตุมีลักษณะการประกอบการเป็นที่รับซื้อของเก่า (ขยะรีไซเคิล) และผลิตเม็ดพลาสติก ซึ่งของพวกนี้เป็นเชื้อเพลิงที่ติดไฟได้ง่าย เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีและติดได้นานก็เลยทำให้เกิดการลุกไหม้อย่างรุนแรง ส่วนพื้นที่โดยรวมของบริษัทนี้มีอยู่ทั้งหมดประมาณ 40-50 ไร่ แต่บริเวณที่เก็บกองวัสดุแล้วเกิดเพลิงไหม้มีอยู่ราวๆ 4-5 ไร่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ต้องควบคุมเพลิงให้สงบลงให้ได้เสียก่อนแล้วถึงจะได้เรียกเจ้าของบริษัทมาสอบถาม พร้อมกับให้ทางเจ้าหน้าที่วิทยาการฯ กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุต่อไป ส่วนปัญหาความยากของการดับเพลิงโรงงานขยะรีไซเคิ้ลแห่งนี้จะอยู่ตรงที่ พื้นที่ทางเข้าออกในโรงงานแคบทำให้รถน้ำขนาดใหญ่ไม่สามารถวิ่งสวนทางผลัดกันเข้าออกเพื่อส่งน้ำเข้าไปดับไฟได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งบ่อพักน้ำที่ทางโรงงานบอกว่ามีอยู่หลายไร่นั้น ก็อยู่อีกฝากหนึ่งของกองเพลิงทำให้รถน้ำไม่สามารถวิ่งเข้าฝ่าเปลวไฟไปถึงตรงนั้นได้ ส่วนอีกบ่อปริมาณน้ำก็มีอยู่อย่างจำกัดซึ่งใช้ไปจนใกล้จะหมดแล้ว ทั้งนี้ก็คงต้องใช้วิธีการให้รถน้ำวิ่งส่งน้ำแทน ถึงจะเพียงพอต่อการดับไฟในครั้งนี้
ร้อยตรีประพันธ์ฯ เปิดเผยอีกว่า สำหรับแผนดับเพลิงในตอนนี้ต้องควบคุมให้เพลิงอยู่ในวงจำกัดไม่ลุกลามไปยังอาคารอื่น และบ้านเรือนประชาชนโดยรอบโชคดีที่โรงงานแห่งนี้มีกำแพงกั้นไว้สูง และหลังจากนี้ยังจะต้องไปตรวจสอบข้อมูลของโรงงานรวมถึงระบบการดับเพลิง การควบคุมเพลิงของโรงงานด้วย ส่วนระยะเวลากว่าที่เพลิงจะสงบลงก็คาดว่าจะถึงเช้า
ล่าสุดผ่านไป 7 ชั่วโมงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ภายในวงจำกัดได้แล้วแต่ไฟยังดับไม่สนิทยังคงต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ก่อน