"แพทองธาร" ขอเวลาปรับแก้รายละเอียดอีกนิด”ดิจิทัลวอลเล็ต” ก่อนแจงรายละเอียด “จุลพันธ์”เล็งแถลงแจกเงินดิจิทัล 11-13 ก.ย.นี้ ยันไทม์ไลน์ยังเหมือนเดิม ไม่กระทบผู้ลงทะเบียนทั้งหมด ลั่นจ่ายเงินก้อนแรกทันก.ย.นี้ ไฟเขียวกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียน 16 ก.ย. เผย"เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์" คนเห็นด้วยกว่า 80% ยันเดิมตาม กม.ไม่รีบเร่ง
ที่อาคารชินวัตร3 เมื่อวันที่ 5 ก.ย.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้านโยบายรัฐบาลที่เตรียมแถลงต่อรัฐสภาในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะได้ข้อสรุปทุกอย่างวันเดียวกันนี้ โดยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนบางคำเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้น และจากนั้นจะมีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ซึ่งได้ทยอยส่งมาแล้วบ้าง โดยทีมจะช่วยกันตรวจดูอีกที ส่วนตนยังดูไม่จบ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยเน้นนโยบายเรื่องอะไรบ้าง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ส่วนใหญ่ยังคงนโยบายเดิม แต่จะปรับเปลี่ยนรายละเอียดเล็กน้อย ในเรื่องของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และจะมีการอธิบายบางนโยบายให้เข้าใจง่ายมากยิ่งขึ้น แต่ขอเวลา ยังไม่สามารถอธิบายรายละเอียดได้ตอนนี้
ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณีการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี(ครม.) ชุดใหม่ จะกระทบกับไทม์ไลน์โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท หรือไม่ ว่า ไม่ เป็นข้อดีที่ทางเราได้รับการโปรดเกล้าฯตำแหน่งมาค่อนข้างเร็ว ซึ่งหลังจากเข้าเฝ้าถวายฯ สัตย์ปฏิญาณในวันที่ 6 ก.ย.นี้ จะต้องมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน แต่เรารู้ว่าบ้านเมืองอยู่ในสุญญากาศนานไม่ได้ จึงมีการเตรียมแนวนโยบายของรัฐบาลไว้ล่วงหน้าและขณะนี้เสร็จแล้ว และเข้าใจว่าในวันที่ 11 ก.ย. จะมีการเลือกรองประธานสภาผู้แทนราษฎร จากนั้นวันที่ 12-13 ก.ย.จะเป็นการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยทางครม.ก็พร้อมที่จะตอบข้อซักถามในการอภิปราย เมื่อเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายตามขั้นตอนทางกฎหมาย ครม.ชุดใหม่ก็จะมีการประชุม ครม.นัดแรก เพื่อเดินหน้าประเทศต่อไป
ผู้สื่อข่าวว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่าเงินดิจิทัลก้อนแรกจะจ่ายได้ทันภายในเดือนก.ย.นี้ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เนื่องจากกระบวนการเราเสร็จค่อนข้างเร็ว ขึ้นตอนแรกมีการกังวลว่ากระบวนการจะเสร็จหลังกลางเดือนก.ย.ไปแล้ว แต่เมื่อเราแถลงนโยบายได้เร็ว ก็ยังมีเวลาเหลืออีกครึ่งเดือนที่คาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเดินหน้าได้ทัน ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ต เรายืนยันว่าการลงทะเบียนรวมถึงผู้ลงทะเบียนทั้งหมด กระบวนการยังเดินหน้าต่อไป โดยเราจะปิดลงทะเบียนสำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟนในวันที่ 15 ก.ย.นี้ เช่นเดิม จากนั้นวันที่ 16 ก.ย.ก็จะเปิดให้กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนลงทะเบียนไปจนถึงวันที่15 ต.ค. โดยจะมีการแถลงเรื่องนี้วันที่ 11-13 ก.ย.
เมื่อถามว่า มีการมองกันว่าหากแจกด้วยเงินสดก็จะไม่ถือว่าเป็นเงินดิจิทัลวอลเล็ต นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นคำพูดของคนในสภาฯ อย่าไปฟังเขา เขาไม่ได้รู้เรื่องโครงการทั้งหมดด้วยซ้ำ เขาก็คาดหมาย แม้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเช่น บางส่วนเป็นเงินสด หรือบางส่วนที่ต้องเดินหน้าเป็นแบบวอลเล็ต เพราะเข้าใจว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจต้องรีบ รัฐบาลก็ต้องบริหารให้มีความเหมาะสม แล้วเงินก็ต้องเร่งให้ถึงมือประชาชน เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นฟูโดยเร็ว ในขณะเดียวกันโครงการนี้ต้องการสร้างรากฐานด้านเศรษฐกิจดิจิตอล ให้คนมีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี ดังนั้นเราจำเป็นต้องทำไปคู่ขนาน เม็ดเงินส่วนหนึ่งก็คงต้องลงในรูปแบบวอลเล็ตต่อไป
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงการทำงานของทีมรมว.คลังชุดใหม่ ว่า ทีมงานเศรษฐกิจชุดนี้แข็งอยู่แล้ว และทำงานได้ดี โดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ก็มีความถนัดในเรื่องของตลาดทุน และภาคเอกชน ส่วน นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ก็มีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องวิชาการ จึงน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว และโชคดีที่ได้ทำงานต่อเนื่อง เชื่อว่าจะช่วยผลักดันด้านเศรษฐกิจต่อไปได้อยู่
ส่วนนโยบายอื่นยังมีอีกหลายอย่างที่ยังค้างอยู่เยอะ และมีภารกิจที่ต้องขับเคลื่อนอีกหลายอย่าง ทั้งในเรื่องนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งโครงการดิจิทัลวอลเล็ตและในเรื่องอื่นๆที่ทำไว้ เช่น กองทุนวายุภักษ์ financial Hub และอีกหลายๆอย่างเยอะมาก หลายๆอย่างมันจ่อมาแล้ว เรามีหน้าที่ต้องทำให้จบโดยเร็ว ขณะที่เรื่อง Entertainment Complex ไม่ใช่โจทย์ใหม่เป็นสิ่งที่คิดมานานแล้ว และเริ่มต้นมาจากสภาฯที่มีการศึกษาผลกระทบต่างๆและส่งมาให้ยังครม. และครม.จึงได้สั่งการให้ดำเนินการทำประชาพิจารณ์
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มีการทำประชาพิจารณ์ตัวร่างพ.ร.บ.เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเข้าใจว่ามีคนที่เห็นชอบน่าจะสูงถึง 80% ตอนนี้สิ่งที่เราทำก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ให้มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่ ก็คือการจัดทำประชาพิจารณ์ โดยจะได้นำความคิดเห็นจากประชาพิจารณ์ ซึ่งมีหลายประเด็นที่ส่งความเห็นมา แล้วเป็นประเด็นที่น่าสนใจ ก็จะนำไปปรับตามนั้น จากนั้นก็มีหน้าที่ในการส่งต่อให้ครม.โดยทุกพรรคร่วมรัฐบาลจะต้องมีการพูดคุยกันก่อนว่าโอเคหรือไม่ ถ้าพรรคร่วมฯและครม.เห็นชอบตรงกันก็ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างเพื่อส่งไปสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ไม่ได้รีบไม่ได้อะไรเลย ขั้นตอนซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน ดูว่าจังหวะเวลาไหนที่มีความเหมาะสมที่สุด