เมื่อวันที่ 5 ก.ย.67 สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ทำเนียบขาวเตรียมประกาศว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะคัดค้านข้อตกลงการซื้อกิจการมูลค่า 1.49 หมื่นล้านดอลลาร์ ระหว่างผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่จากญี่ปุ่นอย่างนิปปอน สตีล (Nippon Steel) กับบริษัทยูเอส สตีล (U.S. Steel) ของสหรัฐฯ โดยให้เหตุผลด้านความมั่นคงของชาติ ขณะที่พรรคการเมืองทั้งสองฝ่ายของสหรัฐฯ ก็คัดค้านด้วยเช่นกัน

ก่อนหน้านี้ ยูเอส สตีล ได้ออกมาเตือนว่า หากไม่บรรลุข้อตกลงกับนิปปอน สตีล จะทำให้พนักงานสหภาพแรงงานของสหรัฐฯ หลายพันคนเสี่ยงตกงาน และยังส่งสัญญาณปิดโรงงานเหล็กบางแห่งและอาจย้ายสำนักงานใหญ่ออกจากรัฐเพนซิลเวเนียด้วย

แหล่งข่าวระบุ กับสำนักข่าวต่างประเทศ ว่า การตัดสินใจดังกล่าวอาจมีการประกาศออกมาอย่างเร็วที่สุดในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ แผนการของนิปปอน สตีล ในการเข้าซื้อกิจการยูเอส สตีล เผชิญกับเสียงคัดค้านจากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน โดยรองปธน.คามาลา แฮร์ริส ต้องการให้ยูเอส สตีล "ยังคงเป็นของสหรัฐฯ และดำเนินงานโดยสหรัฐฯ ต่อไป" ขณะที่คู่แข่งอย่างอดีตปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ก็ให้คำมั่นว่าจะคัดค้านข้อตกลงดังกล่าวหากชนะการเลือกตั้ง

นิปปอน สตีล ซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก และยูเอส สตีล ผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 24 ของโลก ได้ประกาศข้อตกลงการซื้อกิจการเมื่อเดือนธ.ค. 2566 โดยยูเอส สตีล และกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัทได้สนับสนุนการเทกโอเวอร์กิจการ โดยมองว่าจะทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันระดับโลกมากขึ้น ขึ้นแท่นบริษัทผลิตเหล็กที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกเมื่อพิจารณาในแง่ปริมาณ

อย่างไรก็ตาม สหภาพแรงงานยูไนเต็ด สตีลเวิร์กเกอร์ส (United Steelworkers) ได้ออกมาคัดค้านการทำข้อตกลงดังกล่าว ส่งผลให้เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน


#โจไบเดน #ประธานาธิบดีสหรัฐ #ข่าวกีฬา