"จุลพันธ์" ระบุอาจปรับรูปแบบแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเป็นเงินสด ยันรัฐบาลรับฟังข้อห่วงใย เผย "นายกฯ" จะพิจารณาปรับให้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยในบางส่วนอาจจะจ่ายเป็นเงินสด เพื่อให้เกิดประโยชน์โดยเร็วในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยอมรับอาจกระทบต่อการเกิด "พายุหมุนทางเศรษฐกิจ" และยังจะต้องหารือร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วย
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 4 ก.ย.67 นายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ในวาระที่ 2 และ 3 ยังมีข้อห่วงใยในงบประมาณของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ทางรัฐบาลก็รับฟัง และนายกรัฐมนตรีคงจะพิจารณาปรับให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งมีข้อห่วงใยจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคประชาชน รวมถึงทั้งฝ่ายค้านในเรื่องของการปรับเปลี่ยนรูปแบบของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในบางจุด เพื่อให้เกิดประโยชน์โดยเร็วในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อพี่น้องประชาชนได้จับจ่ายโดยเร็ว และมีเม็ดเงินลงทุนโดยเร็ว เราก็รับฟัง
"จึงเป็นไปได้ที่จะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ โดยในบางส่วนอาจจะจ่ายเป็นเงินสด แต่สุดท้ายจะเป็นในรูปแบบใดบ้างขอให้เป็นการพิจารณาร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะต้องมีการพูดคุยร่วมกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 3 ก.ย. เพิ่งได้รับหนังสือจากทางพรรคภูมิใจไทยในเรื่องของแนวนโยบาย ซึ่งต้องนำทั้งหมดมารวมกัน เพื่อให้เกิดเป็นแนวนโยบายแห่งรัฐที่ทุกคนยอมรับได้"นายจุลพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าส่วนที่มีการลงทะเบียนกันไว้แล้ว นายจุลพันธ์ กล่าวยืนยันว่า ยังคงเดินหน้าต่อ เพราะไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีโครงการ ที่เป็นลักษณะของดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งต้องดูกันในรายละเอียด และการทำโครงการนี้ มีอีกวัตถุหนึ่งประสงค์ คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศไทย ดังนั้นจึงไม่อาจละเลยได้ แต่รูปแบบจะเปลี่ยนอย่างไรเพื่อให้บรรลุทั้ง 2 วัตถุประสงค์ ในระดับที่น่าพึงพอใจ เป็นยอมรับได้ จึงจะเป็นคำตอบ
เมื่อถามว่าสำหรับการปรับรูปแบบโครงการจะส่งผลให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า แน่นอน เพราะการปรับเปลี่ยนอะไรก็ตาม มีทั้งข้อบวกและข้อลบในตัวของมันเอง ดังนั้นจะต้องหาจุดสมดุลที่เหมาะสมที่สุด เพื่อให้โครงการเดินหน้าได้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่วางไว้ตั้งแต่ต้น ทั้งเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจและเรื่องการสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจดิจิทัล โดยต้องดูว่าทำอย่างไรให้ได้ทุกอย่างในระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งจะต้องหาจุดให้มีความเหมาะสม
เมื่อถามว่าส่วนกรณีที่ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวานนี้มีภาพของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ และสส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ และส.สในกลุ่มมานั่งอยู่ในฝั่งป้ายพรรคเพื่อไทย ถือเป็นสัญญาณอะไรหรือไม่ นายจลพันธ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ใครอยากนั่งตรงไหนไม่เคยมีการห้ามกัน จะนั่งข้างซ้ายข้างขวา หรือนั่งคุยกันถือเป็นเรื่องปกติ แม้จะมีป้ายวางอยู่ แต่เวลาลงมติก็อยู่ในโซนนั้นแต่ในทางปฏิบัติจริงก็จะมีการเดินไปพูดคุยกันตามปกติ ส่วนจะเป็นสัญญาณอะไรนั้นไม่คิดมาก เพราะเป็นการทักทายกันสวัสดีกันเฉยๆ