ชื่อเสียงเรียงนาม ของ "บิ๊กแมว" พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์  ที่ปรึกษาพิเศษ ทร.  อาจไม่เป็นที่รู้จัก มาก่อน

เพิ่งจะมาเมื่อ "บิ๊กดุง" พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม  ผบ.ทร. ตั้งเป็นประธานคณะกรรมการเขตพัฒนาเศรษฐกิจ EEC ของ ทร. ที่ต้องดูแล โครงการต่างๆในสนามบินอู่ตะเภา ที่ให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ จึงทำให้เริ่มเป็นที่รู้จัก และได้ทำงานกับบิ๊กบอสในแวดวงธุรกิจ 

แต่ก็ไม่ได้อยู่ในบรรดานายทหารเรือคนดังคนเด่น ของทร. ที่ถูกโฟกัสว่าจะเป็น ผบ.ทร. แบบที่เรียกว่า "ม้ามืด"

จนเมื่อ บิ๊กดุง เสนอชื่อ บิ๊กแมว เพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 23 ที่ จบโรงเรียนนายเรือเยอรมัน เมอร์วิค (MARINESCHULE MURWIK)จบปริญญาตรี Electrical Engineering Bundeswehr, University Munich Federal Republic of Germany เป็นผบ.ทร. คนใหม่ 

ท่ามกลางความฮือฮา นึกว่า จะเสนอลวงๆ เล่นๆ ช่วงยื้อเวลาโผทหาร รอ ครม.ใหม่ เพราะตามประเพณี ทร.จะไม่ให้คนจบนอกเป็น ผบ.ทร. 

เพราะก่อนหน้านี้ บิ๊กยุ้ย พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผช.ผบ.ทร. (ตท.14) ที่จบนายเรือเยอรมันเช่นกันก็ถูกเปลี่ยนโผนาทีสุดท้าย ไม่ได้เป็น ผบ.ทร.มาแล้ว

นอกจากไม่ได้อยู่ใน 5 ฉลาม ทร.แล้ว ส่องเส้นทางรับราชการพบว่า ระบุไว้แค่ว่า เคยเป็นผู้บัญชาการกองเรือยามฝั่ง กองเรือยุทธการ รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารเรือเท่านั้น

ส่วนด้านการศึกษา เรียนปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์,วิทยาลัยการทัพเรือ และหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านวิทยาการพลังงาน รุ่น18  แต่ไม่ได้เรียน วปอ.

กลายเป็นเพื่อนคนเดียวที่เหลืออยู่ และยังไม่เกษียณที่ บิ๊กดุง หวังฝากผีฝากไข้ เมื่อเทียบกับ บิ๊กโอ๋ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์  ผช.ผบ.ทร. เพื่อนอีกคนที่ความสัมพันธ์อาจบอบช้ำ ตั้งแต่ชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.กันมา และเมื่อขึ้นมาแล้ว อาจไม่ฟัง บิ๊กดุง และอาจแข็งเกินไป แม้ว่าเส้นทางรับราขการจะโตมาในตำแหน่งหลัก เช่น ผู้บังคับการเรือหลวงภูเก็ต ผู้ช่วยทูตทหารเรือประจำ กรุงวอชิงตัน ดีซี

เจ้ากรมยุทธศึกษา ทร. เสธ.ทร.และ ผช.ผบ.ทร.และร่วมฝ่าฟันปัญหา จากกรณีเรือหลวงสุโขทัย อับปางมาด้วยกัน และจบ Resource Planning and Management for International Defense, US. Naval Postgraduate School, Monterey, CA. USA

ส่วนตัวเลือกอื่นเช่น บิ๊กน้อย พล.ร.อ.วรวุธ พฤกษารุ่งเรือง เสธ.ทร. รุ่นน้อง ตท.24 แม้เส้นทางจะไม่โดดเด่น มาก่อน แต่ก็ยังผ่านตำแหน่งหลัก มาบ้าง ทั้งผู้บังคับการเรือหลวงรัตนโกสินทร์ เรือหลวงพุทธเลิศหล้านภาลัย ผู้บังคับกองพันรักษาฝั่งที่ 11 กรมรักษาฝั่งที่ 1 สอ.รฝ. ผู้ช่วยทูตทหารเรือ กรุงลอนดอน รักษาราชการผู้ช่วยทูต กรุงออสโล-โคเปนเฮเกน และสต๊อกโฮมด้วย และเคย ผบ.กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ กองเรือยุทธการ พล.ร.อ.วรวุธ ดูเงียบๆนิ่งๆ แต่เป็นน้องรัก บิ๊กเฒ่า พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย อดีตผบ.ทร.ที่ บิ๊กดุง อาจเกรงว่า หากเป็น ผบ.ทร.แล้วจะไม่ฟังตนเอง

ส่วนรองวิน พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข รองผบ.ทร. รุ่นน้อง ตท.25  โรงเรียนนายเรือ 82 นั้น บิ๊กดุง มองเป็นคนละขั้ว และเคยชิงเก้าอี้ ผบ.ทร.กันมา เรียนจบปริญญาโท รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง และ International Principle Warfare Officer อังกฤษ  จบหลักสูตร Surface Warfare Department Head Operations Specialty International และ Surface Warfare Officer Advanced Ship Handling/Surface Warfare Officer School Command Newport สหรัฐอเมริกา และ Defense and Strategic studies course เครือรัฐออสเตรเลีย วิทยาลัยการทัพเรือ ,วปอ.61 และหลักสูตรนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 9
 
แม้ว่า รองวิน จะมีเส้นทางรับราชการที่โดดเด่นในสายกำลังรบมาตลอด ทั้งผู้บังคับการเรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงสุโขทัย ผู้ช่วยทูตทหารเรือ ประจำวอชิงตันดีซี. ผบ. กองเรือลำน้ำ ผบ.ฐานทัพเรือกรุงเทพ และหัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสธ.ประจำ ผบ.ทร. และ ผบ.กองเรือยุทธการ คุมกำลังรบทางเรือ ก่อนขึ้น ผช.ผบ.ทร. และรองผบ.ทร. และจบหลายหลักสูตรในต่างประเทศก็ตาม แต่ก็ไม่มีผล

เมื่อมาเจอ "แมว เมอร์วิค" ที่จะสร้างบันทัดฐานใหม่ใน ทร.ในเส้นทางรับราชการที่ไม่ต้องมีตำแหน่งหลักอะไรมาก ไม่ต้อง เป็นผู้ช่วยทูตทหาร ตามธรรมเนียมที่เคยเป็น แค่ จบต่างประเทศก็เป็น ผบ.ทร.ได้ เพราะสุดท้าย บิ๊กดุง คือผู้กุมดวงชะตาทัพเรือ