แพทองธาร ตอกย้ำส.ส.เพื่อไทย เหยียบคันแร่งสานงานต่อรัฐบาลเศรษฐา บอกรัฐบาลชุดนี้ ไม่มีเวลาฮันนีมูน อยากเห็นเพื่อไทยโตเหมือนสมัยพ่อได้ส.ส.377เสียง ระบุครม.นิ่ง ลงนามนำขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้  ภูมิธรรม โยนถาม อุ๊งอิ๊ง ทูลเกล้าฯ ครม.ใหม่ 4 ก.ย.นี้ ขณะที่"ชาดา"ถอนชื่อตัวเองออกจากโผครม. ส่ง "ซาบีดา"ลูกสาวเสียบรมต.แทน

     ที่อาคารชินวัตร 3 เมื่อวันที่ 3 ก.ย.67 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกำชับส.ส.ในที่ประชุมพรรคให้เหยียบคันเร่งการทำงาน ว่า ปกติการประชุมส.ส.เป็นเช่นนี้อยู่แล้ว คุยเรื่องงานในสภาฯ การที่เน้นกับส.ส.คือเน้นเรื่องพื้นที่มากกว่า เพราะนโยบายกรอบใหญ่คลุมไว้หมดแล้ว จะมีปัญหาเล็กๆ ของชาวบ้าน โดยย้ำเตือนว่าทำให้เต็มที่จะได้แก้ปัญหากันไป การพูดคุยกันในทีม วางไทม์ไลน์ว่าเมื่อแถลงนโยบายเสร็จแล้วเข้าไป จะทำอะไรก่อนหลังบ้าง คุยกับทีมไว้แล้ว เมื่อเข้ามาปุ๊ปอาจมีหลายเรื่องให้ทำ กลัวจะลืมว่า จะไม่ได้ติดตามงานไหนบ้าง
 

   ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่มีเวลาฮันนีมูน ต้องทำงานทันที น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่ได้แล้วค่ะ เข้ามาต่อจาก นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี งานดำเนินอยู่แล้วก็ทำต่อ เมื่อถามถึงความคืบหน้าการจัดตั้งครม. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้ลงนาม นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ คิดว่าวันนี้จะเริ่มให้ นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่งรายชื่อเข้าไป เป็นไปตามกระบวนการ ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ ถามว่า ภายในวันนี้จะสามารถลงนามรายชื่อครม.ทั้งหมดเพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯได้เลยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ล่าวว่า ใช่ค่ะ วางแผนไว้เป็นเช่นนั้น

     เมื่อถามว่า ยึดหลักการอะไรในการฟอร์มครม. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าอยากเห็นอะไรมากกว่า ผลงานคนที่เลือกมาจะได้ทำต่อ คนที่คงไว้คงเดิม เห็นถึงศักยภาพอยู่แล้วว่าใครพร้อมจะทำงาน หลังจากอยู่ในพรรคมากกว่า 3 ปี เห็นว่าแต่ละคนใครประมาณไหนอย่างไร ยอมรับว่าอยากชนะเหมือนที่คุณพ่อ นายทักษิณชนะได้ 377 เสียง จะได้ให้ทุกคนมีทุกตำแหน่ง แต่มันได้แค่ปริมาณหนึ่ง ก็ช่วยกัน พรรคอื่นก็มีด้วยก็ได้ให้ทุกคนได้แสดงความสามารถด้วย เมื่อถามว่า อยากบอกอะไรให้ประชาชนนั้นมั่นใจในตัวนายกรัฐมนตรี นส.แพทองธาร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีคนนี้มีทีมที่ดีมากๆ

     นางณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามกรณีรายชื่อคณะรัฐมนตรีใหม่เรียบร้อยแล้วหรือไม่ โดยระบุเพียงว่า ทำดีที่สุด ทำดีที่สุด เมื่อถามว่า การตรวจสอบรายชื่อครบหมดแล้วหรือไม่ นางณัฐฏ์จารี กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ เพราะอยู่ในกระบวนการรักษาความลับ เมื่อถามว่า การสอบถามคุณสมบัติรัฐมนตรีเป็นการสอบถามรายประเด็นใช่หรือไม่ นางณัฐฏ์จารี กล่าวว่า เป็นกระบวนการที่มีหนังสือลับมาก ฉะนั้นตนขอไม่ให้ข่าวในฐานะผู้เซ็น จึงยังบอกไม่ได้
   

 เมื่อถามถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า รายชื่อ 11 รัฐมนตรี มีคดีอยู่ในศาลและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เลขาฯครม. กล่าวว่า ประเด็นมาจากไหน ตนก็ไม่ทราบ และยังงงอยู่เหมือนกัน เมื่อถามย้ำว่า  รายชื่อรัฐมนตรีใหม่ทั้งหมดโปร่งใส ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ เลขาฯครม. ไม่ตอบคำถาม ก่อนเดินขึ้นประชุม ครม.ไปทันที
   

 ด้าน นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยถึงการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรี ว่า  ได้มีการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ส่งเรื่องมาทางคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยตั้งประเด็นคำถามเกี่ยวกับลักษณะผู้ที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี และอยู่ระหว่างดำเนินการฟ้อง จะมีการวินิจฉัยอย่างไร โดยระบุว่าการตรวจสอบเป็นประเด็น ไม่ได้ลงรายละเอียดเป็นรายบุคคล และไม่ได้เห็นรายชื่อรัฐมนตรี ซึ่งกฤษฎีกามีการให้ความเห็นตาม 10 ประเด็นที่ถามมา
 

   ส่วนจะเกิดปัญหาในอนาคตหรือไม่นั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกามีหน้าที่ให้ความเห็นประกอบกับดุลพินิจของนายกรัฐมนตรีเท่านั้น แต่การตัดสินว่าผิดหรือถูก เป็นอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ หากถูกร้องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้วเหมารวมว่ามีมลทินก็ไม่แฟร์กับผู้ถูกร้อง เพราะบางเรื่อง ป.ป.ช.ไม่มีการชี้มูลจึงต้องดูรายละเอียดเป็นกรณี
 

   ขณะที่ นพ. พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับว่า โผครม.นิ่งแล้ว ส่วนความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ส่งกลับมามีรายชื่อใดที่สุ่มเสี่ยงขาดคุณสมบัติหรือไม่นั้น ดูเรียบร้อยแล้ว และถูกต้องตามกระบวนการ
 

   นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฎิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) หลังมีชื่อนั่งรมว.กลาโหม ท่ามกลางการปลุกกระแสไม่เอาคนเดือนตุลาฯ ว่า ต้องบอกไว้ก่อนว่าไม่มีอะไรแน่นอนว่า ตนจะดำรงตำแหน่งอะไร เพราะอยู่ที่นายกรัฐมนตรีพิจารณา แต่หากสมมติว่าตนเป็นรมว.กลาโหม การที่ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม อดีตสว. และอีกหลายท่านที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ตนก็เข้าใจเจตนาว่า ท่านรักสถาบันที่ท่านเคยอยู่ ซึ่งก็อยากให้คลายกังวลในสิ่งที่ท่านกังวล แต่ตนคิดว่าเรื่องที่ตนเข้าไปอยู่ในป่าในเหตุการณ์ที่เกิดความรุนแรงที่สังคมประจักษ์ทั่วโลก การที่เราเข้าไปเพราะเราหนีภัยความรุนแรง และไม่ใช่มีตนเพียงคนเดียว แต่มีนักศึกษาทุกสถาบัน ผู้นำเหล่าทัพนั้นมีความคิดเห็นว่าวิธีแบบนี้มันไม่แก้ปัญหา น่าจะเปิดหนทางให้ทุกคนกลับมา เพราะเชื่อว่าทุกคนมีใจที่บริสุทธิ์ ทุกคนก็กลับมา ตนเองตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา ก็ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเรื่องอะไรเลย ตนพิสูจน์ตนเองมาตลอด 50 ปี
   

 นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งที่ตนทำวันนี้เอาเรื่องประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าตนมีลักษณะไม่ได้ไปขัดแย้งกับใครและเชื่อในเจตนารมณ์ของทุกฝ่าย โดยเฉพาะกองทัพว่าหากเราปรารถนาดี กับสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชน เราไม่มีอะไรที่ขัดแย้งกัน 
     

 ถ้าผมได้อยู่กระทรวงกลาโหม จะทำให้กองทัพเป็นกองทัพอยู่กับพี่น้องประชาชนได้ ช่วยเหลือประชาชนในยามทุกข์ยาก ผมขอให้รอดูก่อน ว่าเป็นอย่างไร และความเป็นผมสามารถพูดคุยกับทหารได้ทุกเหล่าทัพได้ นายภูมิธรรม กล่าว
   

 ผู้สื่อข่าวถามว่า รายชื่อครม.ขณะนี้ถือว่าเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่จบขั้นตอน ดูนายกรัฐมนตรีว่าจะจิ้มสลับใครไปไหนอย่างไร หลังจากนั้นก็จะมีการประสานตามกระบวนการว่าจะขึ้นทูลเกล้าฯอะไรได้อย่างไร และอยู่ในพระราชอำนาจว่าพระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ มาเมื่อไหร่ ทุกอย่างก็จะเร็ว ถ้าโปรดเกล้าฯลงมาก็รอถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณเรียบร้อยแล้ว ตนก็คิดว่าประชุมครม. นัดแรกได้เลยไม่จำเป็นต้องรอวันอังคาร
   

 นายภูมิธรรม กล่าวว่า โดยนัดแรกการประชุมครม.จะเป็นการแต่งตั้งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพราะเมื่อเราถวายสัตย์ปฏิญาณเรียบร้อยแล้ว เราก็จะเข้าสู่การแถลงนโยบาย ซึ่งครม.นัดแรก ก็ต้องมาพูดคุยถึงนโยบายที่จะแถลงต่อสภา เมื่อแถลงต่อสภาเสร็จภายใน 3 วันทุกอย่างก็จบ ตนคิดว่ายังอยู่ในช่วง 15 วันบวกลบ 3 วัน เราต้องการให้เร็วที่สุด เพื่อให้การแก้ไขปัญหา ดำเนินการได้เต็มที่
 

   เมื่อถามว่า พูดเหมือนจะเปลี่ยน เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนพูดตามกระบวนการอย่างที่ตนตอนนี้ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี นพ.พรหมินทร์ก็ได้รับการแต่งตั้งในขณะที่ตนรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี พอครม.ชุดใหม่มา ทุกอย่างปฏิบัติหน้าที่ได้ของเก่าก็ต้องหายทั้งหมด ส่วนจะกลับมาใหม่หรือไม่อยู่ที่นายกฯจะตัดสินใจเลือก จะเป็นคนเก่าหรือคนใหม่ก็แล้วแต่นายกฯ

     เมื่อถามว่า ขณะนี้รายชื่อครม.ทุกอย่างนิ่งแล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นิ่งหมดแล้ว ส่วนใครบ้างก็รอโปรดเกล้าฯ ตนก็ยังไม่รู้เลย เมื่อถามว่า ขณะนี้อยู่ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)หรือนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยู่ที่นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีคงประสาน แต่ตนไม่แน่ใจ สลค.คงจัดการเรียบร้อยแล้ว ก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรีเอามาเพื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ เรื่องนี้ต้องถามนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าจะนำขึ้นทูลเกล้าฯวันที่ 4 ก.ย. นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะตนเป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ
   

 ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่ปรากฏ ในโควตากลุ่มของตนเอง 3 บุคคล ว่า ไม่ใช่โควตา ยืนยันว่าเป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนนตรีว่าจะเลือกใคร ส่วนถามว่าส่งไป 3 รายชื่อใช่หรือไม่  ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้ส่ง ส่วนที่มีชื่อของ นายอัครา พรหมเผ่า น้องชายนั้น อาจจะมีมือที่มองไม่เห็นส่งไปมั้ง ขณะที่ชื่อของ น.ส.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เขาส่งด้วยตัวเองในนามพรรคกล้าธรรม เช่นเดียวกับนายอิทธิ ศิริลัทยากร
 

   ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าตัวเองยังเป็นรัฐบาล แม้ไม่มีตำแหน่งในรัฐบาลแต่ก็จะกลับไปทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ในสภาฯ ในการสนับสนุนรัฐบาลส่วนพรรคพลังประชารัฐนั้นตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหาร และย้ำว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่การทำงานก็จะใช้ในนาม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา เขต 1 ส่วนป้ายชื่อที่นั่งในสภาฯ จะใช้ชื่อว่าอย่างไรขอให้ถามนายอรรถกร
 

   วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้ตีกลับรายชื่อของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ของรัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าวันนี้ นายชาดาให้สัมภาษณ์เพียงสั้นๆ ภายหลังเข้าประชุม ครม. ว่า "ผมไม่มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ"
 

   ขณะที่ ผู้สื่อข่าวจึงได้โทรศัพท์สอบถามนายชาดาอีกครั้ง โดย นายชาดา กล่าวว่า ตนได้ถอดรายชื่อออกเอง โดยจะส่ง น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาวมาสานงานต่อ
     

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงความคืบหน้ารายชื่อคณะรัฐมนตรี ว่า ทุกอย่างเป็นไปตามที่หารือกับพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยทราบน.ส.แพทองธารกำลังรวบรวมในขั้นตอนสุดท้าย ก่อนที่จะนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ
   

 ส่วนกรณีที่เริ่มมีการร้องเรียนนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ยังไม่เริ่มทำงานนั้น นายอนุทิน มองว่า ยุคนี้เป็นยุคของการร้องเรียน แต่หากเรามั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิดพลาด และทำทุกอย่างตามกฎหมาย ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล และโดยส่วนตัว มั่นใจความเป็นหัวหน้ารัฐบาลว่าน.ส.แพทองธารจะดำเนินการทุกอย่างภายใต้กฎระเบียบและรัฐธรรมนูญ และเชื่อว่ามีทีมงานที่ดี
 

   "ตอนนี้เป็นยุคแห่งการร้องเรียน แต่ร้องเท่าไร ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรที่ผิดพลาด ทำทุกอย่างตามเจตนารมย์ และความบริสุทธิ์ ก็ไม่มีอะไรน่ากังวล" นายอนุทิน กล่าว