"ทวี"เลี่ยงตอบปม "ทักษิณ" รักษาตัวชั้น 14 โยนเป็นเรื่องของ "ปปช." ตรวจสอบ ราชทัณฑ์ให้ข้อมูลแล้ว ส่วนกล้องวงจรปิดเป็นเรื่อง"รพ.ตำรวจ"

 ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 3 ก.ย.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการโต้เถียงกันระหว่างอธิบดีกรมราชทัณฑ์กับ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย  ในเรื่องการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ประเด็นดังกล่าวอยู่ในเรื่องการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เราต้องให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. ในฐานะที่ตนบริหารกรมราชทัณฑ์ หากมีข้อมูลอะไรที่สามารถปรับปรุงระบบราชทัณฑ์ในเรื่องที่ยังไม่ถูกต้อง สามารถนำข้อมูลมาเสนอได้
     
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ตามกฎหมายของกรมราชทัณฑ์ เมื่อศาลมีคำสั่งหมายขังมา เราจะมีสถานที่ ได้แก่ 1.เรือนจำ 2.โรงพยาบาล และ3.สถานที่คุมขังอื่นที่มีอยู่ในกฎกระทรวง ซึ่งกฎหมายที่ออกมา เพราะวันนี้เรือนจำมีความแออัด หนาแน่น ส่วนคำว่าที่คุมขังอื่น อาจจะเป็นหน่วยงานที่มีความมั่นคงทางราชการ เพราะราชทัณฑ์เป็นสถานที่จำกัดสิทธิ์ให้อยู่ในสถานที่ แต่ก็มีอีกกฎหมายพัฒนาพฤตินิสัย ส่วนข้อโต้เถียงเรื่องนายทักษิณทราบว่ามีหน่วยงานต่างๆ สอบสวน ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ข้อมูล และต้องเรียนว่าในช่วงเดือน ส.ค.66 ที่นายทักษิณกลับมา รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ยังไม่ได้บริหารประเทศ
    
 ผู้สื่อข่าวถามว่า พอจะเปิดเผยข้อมูลได้หรือไม่ เพราะสังคมไม่สบายใจ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พูดไปเราก็ไม่ได้เป็นผู้ยุติเรื่อง เพราะมีองค์กรตรวจสอบเช่น ป.ป.ช.อยู่แล้ว ซึ่งป.ป.ช.เป็นหน่วยงานกลางและมีกฎหมายรองรับ และพล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เป็นผู้ให้ข้อมูลเราก็ต้องรับฟัง เมื่อถามว่า ได้ส่งข้อมูลกล้องวงจรปิดให้กับทาง ป.ป.ช.แล้วหรือยัง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อยู่ในส่วนของโรงพยาบาลตำรวจ ต้องถามทางโรงพยาบาล เพราะเรามีแค่ในส่วนของกรมราชทัณฑ์
    
 ด้าน นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก เทพไท  คุยการเมือง ว่า เมื่อรัฐบาลมาจากคนไม่มีสัจจะ ก็เหมือนไม่มีสัจจะในหมู่โจร และมีคนตั้งคำถามว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ยาวแค่ไหน ตนไม่ใช่โหรการเมือง แต่เป็นนักวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองคนหนึ่ง แต่เห็นว่ารัฐบาลชุดนี้จะอยู่ยาวแค่ไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก 2 ประการ คือ 1.ความแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน เพราะรัฐบาลชุดนี้จัดตั้งขึ้นมาด้วยการรวมพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์แตกต่างกัน อยู่คนละขั้วการเมือง เหมือนกับน้ำกับน้ำมัน ซึ่งไม่มีวันเข้ากันได้เลย แต่จำเป็นต้องจับมือกันเพราะผลประโยชน์ทางการเมืองเฉพาะหน้า พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ตระบัดสัตย์ ไร้สัจจะ จึงทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ย่อมไม่มีสัจจะในหมู่โจร ไม่ต่างอะไรกับรัฐบาลโจร และพวกโจรจะสามัคคีกันตอนปล้น แต่จะทะเลาะกันเมื่อแบ่งสมบัติ รัฐบาลชุดนี้ก็เช่นเดียวกัน
     
นายเทพไท ระบุอีกว่า 2.อยู่ที่บทบาทของ นายทักษิณ ชินวัตร เพราะนายทักษิณคือนายกรัฐมนตรีตัวจริง สามารถครอบงำและครอบครอง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะน.ส.แพทองธาร ขาดวุฒิภาวะ ขาดประสบการณ์ทางการเมือง และเป็นลูกสาวของนายทักษิณด้วย สามารถจะสั่งการได้100 เปอร์เซ็นต์ เปรียบเสมือนนายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี และถ้านายทักษิณย่ามใจ หลงอำนาจ เหลิงอำนาจ ทำอะไรตามอำเภอใจ ก็จะเจอกับดักทางกฎหมายหลายอย่าง โดยจะมีผู้จองกฐินร้องเรียน และมีองค์กรอิสระคอยตรวจสอบอยู่ ในที่สุดรัฐบาลของน.ส.แพทองธารภายใต้การครอบงำและครอบครองของนายทักษิณ จะตายน้ำตื้น ทั้งนี้ยังไม่รวมเรื่องประเด็นส่วนตัวของนายทักษิณ เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล เป็นนักโทษเทวดารักษาพยาบาลที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งข้อมูลอยู่ในมือ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส พอที่จะทำให้นายทักษิณและผู้ช่วยเหลือ ติดคุกได้ และอาจนำไปสู่ประเด็นการยุบพรรคเพื่อไทยได้ด้วย จึงขอให้จับตาความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่จะเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด อย่าคิดว่าทะเลที่ราบเรียบไม่มีคลื่น จะไม่เกิดสึนามิ
     
นายราเมศ รัตนะเชวง อดีตโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณี นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุพาดพิงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ยังก้าวไม่ข้าม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ความเห็นของนายอภิสิทธิ์เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมืองปกติ ด้วยความห่วงใยบ้านเมืองที่ประสงค์ดี ไม่ประสงค์ร้าย และต้องขอแก้ตัวแทนนายทักษิณว่าเขาไม่ได้ครอบงำพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ครอบงำรัฐบาล เพราะนายทักษิณยอมรับเองว่าครอบครอง ซึ่งมีความหมายตามพจนานุกรมไทยชัดว่า เป็นเจ้าของ มีสิทธิปกครอง ยึดถือไว้โดยเจตนาจะยึดถือเพื่อตน หรือเพื่อครอบครัวทุกคนมองออก จึงขอให้ทุกคนเลิกกล่าวหานายทักษิณว่าครอบงำ เพราะเมื่อเป็นเจ้าของ มีสิทธิปกครองจะต้องไปครอบงำทำไม ทั้งนี้ ทุกคนก้าวข้ามนายทักษิณไปหมดแล้ว มีแต่พรรคเพื่อไทยที่ไม่เปลี่ยน ยังจมอยู่กับทักษิณ จะอธิบายแก้ตัวอย่างไรก็ไม่สามารถลบความจริงได้
      
 "ยุคน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี นโยบายหาเสียงชัดว่า 'ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ' แล้วมาสมัยนี้ลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรีและตัวคุณทักษิณอยู่ในประเทศด้วย ชัดว่า 'ทักษิณคิด ทักษิณทำ' ประชาชนมองออก จะไปว่านายทักษิณว่าครอบงำพรรคเพื่อไทยครอบงำรัฐบาลก็ไม่ได้ เพราะทั้งหมดอยู่ในความครอบครองของทักษิณ ในเมื่อเป็นเจ้าของที่ครอบครอง แล้วจะไปครอบงำทำไม" 
     
อดีตโฆษกพรรค ปชป. กล่าวต่อว่า กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มีการเรียกแกนนำรัฐบาลทุกพรรคเข้าพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้า หรือจะแก้ตัวว่า แกนนำแวะไปเข้าห้องน้ำไม่ได้เจอนายทักษิณ รอบนี้ชัด ที่ทักษิณทั้งคิดและทำ แต่ไม่ค้าน ถ้าส่วนที่ได้นำเสนอแนวคิดที่ดีต่อสังคมและประเทศ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลนี้อยู่ในความครอบครองของทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมแต่อย่างใด ที่สำคัญ ก็ไม่ควรนำการบริหารแบบเดิม ๆ ที่มีการทุจริต บริหารประเทศดูแลประชาชนให้เท่าเทียม ไม่อยากให้เลือกปฏิบัติเหมือนที่ผ่าน ๆ มา อย่าเสนอกฎหมายที่ไม่ถูกต้องโดยใช้เสียงข้างมากลากไป เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นก็ทำนายอนาคตได้ไม่ยาก