วันนี้ (3 ก.ย.) พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.7 พร้อม พ.ต.อ.ธงชัย บัวรังษี รอง ผบก.น.7 รรท.ผกก.สน.บางยี่ขัน พ.ต.ท.สวัสดิ์ ภักดี รอง ผกก.กก.สส.บก.น.7 และ พ.ต.ท.สมศักดิ์ แก้วอุดม สว.กก.สส.บก.น.7 นำกำลังฝ่ายสืบสวนจับกุมตัว นายทวีศักดิ์ หรือแบงค์ ทองไสว อายุ 34 ปี  ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน เลขที่ จ.489/2567 ลงวันที่ 3 ก.ค.67 ข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยที่ไม่สามารถขัดขืนได้,ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ได้กระทำโดยมีอาวุธ หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายและให้ผู้อื่นนั้นกระทำการใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น และพาอาวุธมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันควร สามารถจับกุมตัวได้ที่ทางสาธารณะกลางซอยอ่อนนุช 72 ใกล้เคียงบ้านเลขที่ 134/1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม.

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 02.14 น.วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.แมว (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี กำลังเดินขึ้นสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้ามาจากฝั่งพระนครเพื่อจะกลับที่พักซึ่งอยู่ภายในซอยสมเด็จพระปิ่นเกล้า 3 แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กทม. ได้สังเกตพบว่ามีผู้ชายลักษณะรูปร่างสูงใหญ่ยืนมองตนอยู่บริเวณจุดแจกอาหารฝั่งพระนคร หรือบริเวณฝั่งตรงข้ามสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ต่อมา น.ส.แมว ได้เดินข้ามสะพานปิ่นเกล้า มุ่งหน้ามาฝั่งธนบุรีเมื่อถึงบริเวณกลางสะพาน ผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวได้มายืนดัก น.ส.แมว อยู่บริเวณกลางสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฝั่งทิศเหนือ และได้นำอาวุธมีดเข้ามาจี้ ใช้กำลังบังคับข่มขู่กักขังหน่วงเหนี่ยวให้ น.ส.แมว เดินกลับไปยังฝั่งพระนครและได้ใช้กำลังลวนลามจับต้องของสงวน เคราะห์ดี น.ส.แมว ฮึดสู้วิ่งหลบหนีได้ก่อนจะตกเป็นผู้เสียหายมากไปกว่านี้ จากนั้นจึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางยี่ขัน เพื่อให้ติดตามชายคนดังกล่าว

กระทั่งชุดจับกุมแกะรอยจาก CCTV จนสืบทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายทวีศักดิ์ ใช้ยานพาหนะรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น รีโว่ สีดำ หมายเลขทะเบียน 3 ฒต 3418 กรุงเทพมหานคร ด้านหลังติดสติ๊กเกอร์ “อย่าเยอะ” สีเขียว ขับหลบหนีไปยังที่พัก เบื้องต้นจึงรวบรวมพยานหลักฐาน ภาพถ่าย ให้ผู้เสียหายดู ซึ่งผู้เสียหายจดจำได้อย่างแม่นยำ จากนั้นดำเนินการออกหมายจับ และติดตามไปจับกุมตัว นายทวีศักดิ์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด.