พบศพหนุ่มรัสเซียหมกคูน้ำ แผลกรีดแขน ทุบกกหู ตร.เร่งสอบสวนไม่ตัดประเด็นฆ่าทิ้งอำพราง

เมื่อเวลา 13.10 น.วันที่ 3 ก.ย.67 ร.ต.อ.ภีรวัฒน์ ยอดต่อ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กะรน จ.ภูเก็ตได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพชายชาวต่างชาติเสียชีวิตอยู่ในคูน้ำ  ถ.หน้าหาดกะรน ต.กะรน อ.เมืองภูเก็ต จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.นำกำลังสายตรวจ แพทย์ พฐ.และมูลนิธิร่วมใจกู้ภัยภูเก็ตรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นคูน้ำห่างจากถนนสายดังกล่าวเล็กน้อย พบศพชายนอนหงายหน้าไม่สวมเสื้อ นุ่งเพียงกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน บริเวณที่ข้อพับแขนซ้ายมีบาดแผลฉกรรจ์ โดยที่บริเวณแขนซ้ายและขวามีรอยถูกกรีดด้วยของมีคมเป็นแผลยาวทั้งสองข้างจนเห็นเส้นเอ็นและเกือบเห็นกระดูก กกหูขวามีรอยถูกของแข็งทุบเป็นแผลฉกรรจ์อีก 1 แผล รูปพรรณผิวขาว สูงระหว่าง 175-180 ซม.ที่บริเวณคางไว้เครา รูปร่างผอม ตรวจสอบบริเวณใกล้ศพพบกระเป๋าหนังสีดำ ภายในมีหนังสือเดินทาง 2 เล่ม 1 ใน 2 เล่มระบุชื่อ  อายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย ซึ่งคาดว่าเป็นผู้ตาย ส่วนอีกเล่มเป็นของหญิงสาวชาวรัสเซีย โดยในกระเป๋ายังพบเอกสารและบัตรเป็นภาษารัสเซียอีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเปรียบเทียบกับศพที่พบ ขณะที่บริเวณศพโดยรอบมีทางมะพร้าววางอยู่ ตรวจสอบโดยรอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้ สภาพศพเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 12-24 ชม.เบื้องต้นแพทย์ที่เกิดเหตุคาดว่าเป็นการตายโดยผิดธรรมชาติ ส่วนบาดแผลที่ทำให้ผู้ตายเสียชีวิตนั้น แพทย์นิติเวชจะต้องผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.วชิระภูเก็ต 

จากการตรวจสอบและสอบสวนเบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายอาจคือ หนุ่มรัสเซียรายหนึ่งอายุ 27 ปี สัญชาติรัสเซีย เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทยเมื่อวันที่ 24 เม.ย.67 โดยเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราเป็นกรณีพิเศษ 90 วัน ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบสถานที่พักใน จ.ภูเก็ต ส่วนสาเหตุการตายเชื่อว่าอาจถูกทำร้ายร่างกายมาจากที่อื่นแล้วนำศพมาโยนทิ้งไว้ที่บริเวณดังกล่าว ขณะที่ประเด็นการฆ่าหรือทำร้ายจนผู้ตายเสียชีวิตนั้น อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากบาดแผลที่พบตามร่างกายของผู้ตายนั้น มีร่อยรอยบาดแผลที่ถูกกรีดด้วยของมีคมทั้งบริเวณแขนพับ แขนทั้งสองข้าง รวมไปถึงบริเวณกกหูถูกของแข็งตีจนแตก ซึ่งเป็นการทรมานผู้ตายก่อนเสียชีวิต จากนั้นได้นำศพมาโยนทิ้งไว้บริเวณจุดที่พบศพ เพื่ออำพรางสถานที่ฆ่า ส่วนหนังสือเดินทางอีก 1 เล่มที่เป็นหญิงสาว ซึ่งคาดว่าเป็นแฟนสาวของผู้ตายที่พบในกระเป๋าข้างศพผู้ตาย อยู่ระหว่างการตรวจสอบและติดตามตัวว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ อย่างไร 


 รวมไปถึงลูกของผู้ตายที่เดินทางเข้ามาประเทศไทยพร้อมกัน 3 คน ยังคงหายตัวไปด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้ตายอาจมีความขัดแย้งกับกลุ่มคนร้าย ทั้งในเรื่องส่วนตัวและธุรกิจ อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่จะได้สืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างละเอียดเพื่อสืบสวนไปถึงคนร้ายที่ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป