วันที่ 3 ก.ย.67 ที่ศาลาว่าการ กทม. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวความคืบหน้าโครงการพัฒนาระบบการเดินรถด่วนพิเศษ (BRT) สายสาทร -ราชพฤกษ์ ว่า ตามที่สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) เปิดให้บริการรถโดยสารด่วนพิเศษ หรือ รถเมล์ BRT รุ่นใหม่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า (EV) ในเส้นทางปัจจุบันสายสาทร-ราชพฤกษ์ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา พบปัญหาหลัก ๆ อยู่ 3 เรื่อง เรื่องแรก จำนวนรถที่ให้บริการ มีเพียง 16 คันจากทั้งหมด 23 คัน ทำให้ไม่เพียงพอกับความต้องการในการใช้บริการของประชาชน เรื่องที่ 2 ความถี่ในปล่อยรถ กำหนดทุก ๆ 12 นาที จากเดิม 7 นาที ทำให้ประชาชนที่มาใช้บริการต้องใช้เวลารอนานมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วน เช้าและเย็นจะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากต้องต่อแถวเข้าคิวล้นออกมาด้านนอกสถานี สาเหตุที่ปล่อยรถทุก 12 นาที เพราะจำนวนรถมีไม่เพียงพอ จึงต้องเฉลี่ยเวลาในการปล่อยรถออกมาให้บริการ 

 

เรื่องที่ 3 เรื่องประตูไม่ปิด ขณะที่รถวิ่ง เนื่องจากรถเมล์บีอาร์ทีรุ่นใหม่ จะติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ควบคุมการปิดเปิดประตูบานพับ ถ้ามีสิ่งของหรือคนไปกีดขวางหรือปิดบังเซนเซอร์ ทำให้ประตูปิดไม่สนิท ซึ่งเป็นระบบเซฟตี้ของรถ

 

นอกจากนี้ยังได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการขึ้นลงรถไม่ได้รับความสะดวก จากเดิมรถจะเข้าจอดเทียบสถานี แต่รถรุ่นใหม่เป็บแบบชานต่ำผู้โดยสารต้องเดินลงไปขึ้นรถที่ทางเท้า ระหว่างทางเดินไม่มีหลังคาคลุม ขณะ สจส.อยู่ระหว่างหาตัวผู้รับจ้างเพื่อดำเนินการปรับปรุงสถานีเพื่อให้รองรับกับรถรุ่นใหม่ พร้อมทั้งก่อสร้างหลังคาครอบคลุมทางเดินด้วย เมื่อแล้วเสร็จจะได้รับความสะดวกมากขึ้น ส่วนการให้บริการคาดว่าจะใช้เวลาสักระยะ ทุกอย่างถึงจะเข้าที่ได้

 

ส่วนเรื่องสถานีชาร์จรถไฟฟ้า โดยการไฟฟ้านครหลวง (MEA) จะก่อสร้างสถานีชาร์จที่สถานีช่องนนทรีให้กับกทม.ตาม MOU ที่ได้ลงร่วมกันไว้ แต่เพิ่งได้รับแจ้งจาก MEA ว่า การก่อสร้างสถานีชาร์จรถอาจจะต้องล่าช้าออกไป เพราะอยู่ระหว่างส่งเรื่องให้อัยการตรวจสอบข้อสัญญาระหว่าง MEA กับผู้รับเหมาก่อสร้าง มีปัญหาติดขัดด้านข้อกฎหมายหรือไม่อย่างไร เบื้องต้นได้ประสานขอใช้สถานีชาร์จของไทย สมายล์ บัส ย่านถนนพระราม 3 ก่อน แต่อาจจะไม่สะดวก เพราะต้องแจ้งจองคิวก่อน เนื่องจากหัวจ่ายมีจำกัด 

 

ขณะที่เพจฟุตบาทไทยสไตล์ ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความ อัพเดทสถานการณ์สดๆๆ ลูกเพจนั่ง #บีอาที #BRT กลับบ้านที่สถานีต้นทางสาทร ทำงานว่าเหนื่อยแล้ว เจอสภาพแถวคิวแล้วคือเป็นลม โดยมีผู้แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น รถเสียบ่อย ประตูไม่ปิด ทำให้ผู้โดยสารต้องลงมาขึ้นรถคันอื่น รวมถึง การปล่อยให้รถส่วนตัววิ่งในช่องบีอาร์ที ทำให้รถชะลอตัว ทำเวลาตามกำหนดไม่ได้ ผู้โดยสารต้องรอรถในเวลาที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนจะนำรถมาวิ่งรับประชาชน เหตุใดจึงไม่ตรวจสอบความพร้อมให้เรียบร้อย เพราะเมื่อเกิดปัญหารถเสีย ไม่มีรถเสริม ทำให้ประชาชนต่อคิวยาวมากขึ้น และไม่มีรถเพียงพอต่อการใช้งานของผู้โดยสาร รวมถึงการปล่อยรอบวิ่งรถ 12 นาทีต่อ 1 คัน น้อยเกินไป แตกต่างจากรถรูปแบบเดิมที่มีรถจำนวนมากกว่า จุผู้โดยสารได้มากกว่า และออกรอบติด ๆ กัน ไม่ต้องรอนาน แต่ประชาชนบางส่วนก็ให้ความเห็นว่า เป็นเพราะขณะนี้คือช่วงทดลองให้นั่งฟรี จึงทำให้มีผู้โดยสารจำนวนมาก รถจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการ เป็นต้น