ที่ จ.อุดรธานี หุ้นส่วนผับดังเถียงกันเดือดปมปิดผับเดือดร้อนพนักงานและลูกจ้างกว่าร้อยชีวิตต้องเคว้ง เจ้าหน้าที่เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยลงตัวต่างฝ่ายถอยคนละก้าว ด้านเสี่ยจอห์น เสี่ยจากจ.สกลนคร ขอถอนหุ้นเตรียมยื่นรายงานบัญชีการเงินการลงทุนไปเกือบ 16 ล้านบาท ส่วนเสี่ยแป๊ะและภรรยาหุ้นส่วนชาวจ.อุดรธานีพร้อมซื้อหุ้นคืน 40% ขณะที่พนักงานได้เฮได้ไปต่อมีงานมีเงินแล้ว เปิดได้ก่อนปลายเดือนก.ย.นี้
วันนี้ (2 ก.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีพนักงานผับดังแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เข้าร้องเรียนต่อ ผวจ.อุดรธานี ผ่านศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี เพื่อเรียกร้องให้หุ้นส่วนผับที่ปิดร้านกะทันหันและไม่มีกำหนด โดยไม่แจ้งพนักงานและลูกจ้างให้ทราบ ทำให้เดือดร้อนกันกว่า 100 ชีวิต ต้องเคว้งไร้งานไร้เงิน และพนักงานได้ออกมาเรียกให้หุ้นส่วนมาพูดคุยและจ่ายเงินเดือนที่ยังค้างจ่ายเงินชดเชย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นเมื่อวันที่ 29 ส.ค.67ที่ผ่านมา
ล่าสุดที่ ห้องประชุมคำชะโนด ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ศูนย์ดำรงธรรมจ.อุดรธานี ได้เชิญน.ส.ณัฐชนันท์ นายอาริยะ กรรมการบริษัท เสี่ยแป๊ะ และไพฑูรย์ หรือ เสี่ยจอห์น กรรมการผู้จัดการ บริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการสถานบันเทิง พนักงานมาไกล่เกลี่ยหาแนวทางออกร่วมกันในการเปิดกิจการต่อ โดยมีสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน จ.อุดรธานี และนายเตชธรรม โลหิตดี หรือทนายโนบิตะ เป็นคนกลางพร้อมร่วมรับฟัง
บรรยากาศการไกล่เกลี่ยและพูดคุยอึมครึมอยู่นาน มีการโต้เถียงกันและปะทะคารมกันเดือดหลายชั่วโมงกรณีด่าพ่อแม่ของอีกฝ่าย จนเจ้าหน้าที่ฯ ที่เป็นตัวกลางต้องให้สองหุ้นส่วนเบาๆ ลง ทั้งนี้ตัวแทนสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน จังหวัดอุดรธานี กล่าวให้คำแนะนำในที่ประชุมว่า กรณีสถานบันเทิงปิดชั่วคราวพนักงานหากเป็นพนักงานประจำหรือรายวันก็บริษัทจะต้องจ่ายได้ค่าจ้าง ส่วนลูกจ้างที่ไม่มีเงินเดือนหรือจ้างรายวันบริษัทควรคิดค่าจ้างให้ตามที่ตกลงและจ่ายค่าชดเชยให้ตามกฎหมายแรงงานขั้นต่ำหรือตามผลงานที่เคยทำไว้ และหากมีการหยุดกิจการหรือแม้แต่หยุดชั่วคร่าวบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน โดยสุดท้ายได้ข้อยุติเสี่ยจอห์นยอมถอนหุ้น พร้อมยื่นบัญชีการเงินการลงทุนประมาณ 40% เพื่อนำมาแสดง ประมาณ 16 ล้านบาท ส่วนเสี่ยแป๊ะจะซื้อหุ้นคืนทั้งหมด และจะเปิดดำเนินการผับดังกล่าวต่อ คาดว่าจะเปิดผับได้ภายในสิ้นเดือน ก.ย.67 นี้ ขณะที่ลูกจ้างที่มาร่วมรับฟังพากันได้ลั่นห้องประชุม
น.ส.รัชฎาภรณ์ เมืองเก่า นิติกรชำนาญการพิเศษศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า โดยผลการไกล่เกลี่ยสรุปว่า นายไพฑูรย์ฯ จะดำเนินการยื่นรายงานบัญชีรายการเงินลงทุน รายการทรัพย์สินที่ร่วมลงทุนภายในบริษัท ให้กับกรรมการ ผู้จัดการบริษัท คือ น.ส.ณัชชานันท์และนายอริยะฯ เพื่อตรวจสอบภายในวันที่ 5 กันยายน เมื่อตรวจสอบแล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ก.ย.67 หากตรวจสอบแล้วจะชำระเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ ข้างต้นคืนให้แก่นายไพฑูรย์ ภายในวันที่ 30 กันยายน หุ้นส่วนอีกฝ่ายก็พร้อมจะเปิดผับต่อไป เพื่อจะได้ให้ลูกจ้างและพนักงานกว่า 100 ชีวิตได้ทำงานต่อ ทั้งนี้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายนัดสรุปผลตรวจสอบอีกครั้ง วันที่ 20 กันยายน ที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี หากทั้ง 2 ฝ่ายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงให้อีกฝ่ายสามารถบังคับคดีได้ทันที ทั้งนี้หากมีการเคลียร์ชำระค่าใช้จ่ายดังกล่าวแล้ว หุ้นส่วนที่ซื้อหุ้นคืนก็รับปากพนักงานและจะเปิดกิจการได้อีกแน่นอน